ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (19 ม.ค. 67) กรุงเทพฯ วิกฤต “แดงทุกพื้นที่”

ภาพถ่ายมุมสูงมองเห็นอาคารสูง บ้านเรือนย่านซอยอารีย์สัมพันธ์ แสงแรกของวันเบลอท่ามกลางม่านหมอก
แสงแรกของวันส่องทะลุผ่านม่านฝุ่นเหนือน่านฟ้ากรุงเทพมหานคร ภาพถ่ายเมื่อ 9 มกราคม 2567 โดย Lillian SUWANRUMPHA / AFP

GISTDA รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพฯวิกฤต ทุกพื้นที่มีค่าสีแดง ทั่วไทย 22 จังหวัดเกินมาตรฐานสีแดง

วันที่ 19 มกราคม 2567 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 19 มกราคม 2567 พบว่า มี 22 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง อาทิ

  • สมุทรสาคร 153.7 ไมโครกรัม
  • สมุทรสงคราม 145.4 ไมโครกรัม
  • นครปฐม 118.1 ไมโครกรัม
  • นนทบุรี 113 ไมโครกรัม
  • กรุงเทพมหานคร 110 ไมโครกรัม

ค่าฝุ่นทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังพบค่าฝุ่นที่เกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้มอีก 23 จังหวัด

ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง ทุกเขตของพื้นที่ เช่น

  • หนองแขม 167.1 ไมโครกรัม
  • บางกอกใหญ่ 152.2 ไมโครกรัม
  • ธนบุรี 145.8 ไมโครกรัม
  • บางบอน 142.7 ไมโครกรัม
  • ทวีวัฒนา 142 ไมโครกรัม

ตารางค่าฝุ่น กทม.

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม

ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial Intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 389 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 168 จุด ตามด้วยพื้นที่เขต ส.ป.ก. 76 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 68 จุด ชุมชนและอื่น ๆ 41 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 26 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด และจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ #ลพบุรี 44 จุด #ชัยภูมิ 22 จุด #ชลบุรี 22 จุด

แผนที่ประเทศไทยแสดงพื้นที่ฝุ่นหนาแน่น

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 1,999 จุด ตามด้วยพม่า 439 จุด ลาว 174 จุด และเวียดนาม 120 จุด

“ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ”