มิตรผลโหมผลิตเอทานอล ไม่หวั่นล้นเร่งส่งออกต่างประเทศ

“มิตรผล” หนุนเอทานอลต่อยอดสร้างมูลเพิ่มมากขึ้น เร่งยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 พร้อมขยายกำลังการผลิตทะลุ 410 ล้านลิตร ปีེ สวนกระแสโอเวอร์ซัพพลาย ดันส่งออกจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น

นายสกล แสงอรุณ ผู้อำนวยการศูนย์เอทานอล บริษัท มิตรผล จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมราคาเอทานอลในประเทศมีแนวโน้มทรงตัว แต่ทิศทางการเติบโตของการใช้เอทานอลของตลาดในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริม สามารถนำมาผลิตเป็นสารตั้งต้นให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้อีกมาก ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรลดสัดส่วนเอทานอล

“ทิศทางการการใช้เอทานอลในตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริมในเกิดการลงทุนรอบใหม่ บริษัทจึงมีแผนจะศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เอทานอลเกรดพิเศษ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยา ผลิตภัณฑ์ทางเคมี เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และบริษัทเสนอภาครัฐให้ยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 เพื่อไปส่งเสริมเอทานอลมากขึ้น อาจปรับให้เป็น E20 และ E85 โดยไม่ควรลดสัดส่วนการใช้เอทานอล”

โดยในส่วนของบริษัทมิตรผลคาดการณ์ปี 2562 จะขยายกำลังผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้นอีกเป็น 410 ล้านลิตรต่อปี จากปีนี้ที่ 391 ล้านลิตรต่อปี โดยจะเป็นการขยายกำลังการผลิตเพื่อการส่งออกในสัดส่วนที่มากขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบราคากากน้ำตาล มันสำปะหลังที่ค่อนข้างลดลงส่งผลให้เกิดโอเวอร์ซัพพลายซึ่งยังใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

“กลุ่มมิตรผลมีวัตถุดิบผลิตพลังงานของตัวเองทำให้ต้นทุนต่ำ จึงเตรียมขยายกำลังผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น ในตลาดจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงเพื่อนบ้านอาเซียน โดยต้องดูช่วงราคาที่เหมาะสม”

ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัท มิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด ในกลุ่มมิตรผลมี 4 แห่ง ประกอบด้วยโรงงานเอทานอลภูเขียว กำลังการผลิต 500,000 ลิตรต่อวัน โรงงานเอทานอลกาฬสินธุ์ กำลังการผลิต 230,000 ลิตรต่อวัน โรงงานเอทานอลด่านช้าง กำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อวัน และแม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด กำลังการผลิตวันละ 230,000 ลิตรต่อวัน รวมกำลังการผลิตทั้งหมดมี 1.1 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 380 ล้านลิตรต่อปี ถือเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ในอาเซียน

ในปีนี้บริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศ ในเวที ASEAN Energy Award 2018 ครั้งที่ 18 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ ประเภทพลังงานทดแทน จากการนำเทคโนโลยีจากประเทศฝรั่งเศสที่มีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงานเข้ามาใช้ในโรงงาน สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 127,000 ตันต่อปี ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักในการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน