พาณิชย์ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมี พบราคาลดลง 20-50 บาทต่อกระสอบ ชี้ เป็นประโยชน์กับเกษตรกร

พาณิชย์ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมีในพื้นที่ หลังพาณิชย์จับมือผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ปรับลดราคาจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา พบราคาลดลง 20-50 บาทต่อกระสอบ เผยเป็นประโยชน์กับเกษตรกรใช้ปุ๋ยราคาถูกลง

นายเมธี บัวพึ่ง พาณิชย์จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ได้นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมี และตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมี ในพื้นที่อำเภออำเภอเมือง และบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ร่วมมือผู้ประกอบการปุ๋ยเคมีรายใหญ่ ประกาศปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2562 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2562 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถลดปัจจัยต้นทุนการผลิต

ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายปุ๋ยเคมีในพื้นที่จำนวน 2 ราย ได้แก่ ร้านเม้งฮวดเกษตร และร้านชัยมงคลเคมีภัณฑ์ ซึ่งทั้งสองร้านเป็นร้านจำหน่ายปุ๋ยเคมีรายใหญ่ของจังหวัดลำพูน โดยพบว่าสถานการณ์ราคาการจำหน่ายปุ๋ยเคมีได้ปรับลดลง 20- 50 บาท/รายการ สอดรับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่ร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ปรับลดราคาปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นประโยชน์กับเกษตรกร ที่จะได้ใช้ปุ๋ยในราคาที่ถูกลง

โดยราคาจำหน่ายปุ๋ย ราคาปลีก ณ ปัจจุบัน ปุ๋ยตรากระต่าย หัววัวคันไถ สูตร 16-20-0 ราคา 650 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 20 บาท ปุ๋ยตรารุ่งอรุณ สูตร 16-16-8 ราคา 680 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 20 บาท ปุ๋ยกระต่าย สูตร 15-15-15 ราคา 780 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 30 บาท/กระสอบ ปุ๋ยตราหัววัวคันไถ สูตร 15-15-15 ราคา 750 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 20 บาท ปุ๋ยตรามงกุฏ สูตร 15-15-15 ราคา 750 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 20 บาท ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ราคา 600 บาท/กระสอบ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 50 บาท

“จากการสอบถามผู้ประกอบการ ได้รับแจ้งว่า สถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมีได้ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากเกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูกลดลง และหันไปปลูกพืช และใช้ปุ๋ยตัวอื่นทดแทน จึงทำให้ยอดจำหน่ายลดลงมาบ้าง”นายเมธีกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ได้ประชาสัมพันธ์และกำชับให้ผู้ประกอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมีทุกแห่ง ต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการให้ถูกต้องและชัดเจน เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่เกษตรกรและผู้ใช้ปุ๋ย หากไม่ปฏิบัติตาม ทางสำนักงานฯ จะจัดชุดเจ้าหน้าดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป