‘วราวุธ’ ถกด่วนรับมือวิกฤตหมอกควันภาคเหนือ

ยวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

‘วราวุธ’ ประชุมด่วนกองทัพ-17 จว.ภาคเหนือ รับมือวิกฤตหมอกควัน สั่งการเข้มห้ามเผาเด็ดขาด พร้อมประสานอาเซียนรับมือฝุ่นข้ามพรมแดน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ได้ประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติ เพื่อหารือการยกระดับการดำเนินมาตรการรับมือสถานการณ์อย่างเร่งด่วน รวมไปถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์นับจากนี้ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ว่าราชการ 17 จังหวัดภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายวราวุธ กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับทราบสถานการณ์และการดำเนินงานในพื้นที่ โดยกองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดภาคเหนือรายงานต่อที่ประชุมถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ได้มีการระดมสรรพกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่ เข้าดับไฟทันทีที่ได้รับรายงาน/แจ้งเหตุ ประกาศวันห้ามเผา ตั้งศูนย์บัญชาการ 24 ชั่วโมง การใช้อากาศยานในการดับไฟและปล่อยละอองน้ำ การเจรจากับหน่วยทหาร/เมืองคู่ขนานชายแดนไทย-เมียนมา-ลาว รวมไปถึง การจัดตั้ง blue sky zone/ safety zone และการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกดูแลสุขภาพประชาชน

ทั้งนี้ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญของการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หากประชาชนไม่ร่วมมือก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเด็ดขาดและยั่งยืน โดยเฉพาะการทำความเข้าใจถึงผลกระทบจากการเผา ที่จะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ กระทบสิ่งแวดล้อม และยังทำลายป่าต้นน้ำ ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานผลิตน้ำของทุกคน หากไม่มีป่า ก็จะส่งผลไปถึงเรื่องภัยแล้งด้วย

“มาตรการรับมือสถานการณ์ในห้วงเวลานับจากนี้ ขอให้ทุกจังหวัดเข้มข้น เข้มงวด และกวดขันการควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ และให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาอย่างเด็ดขาดตลอดช่วงห้ามเผาที่จังหวัดกำหนด หากพ้นช่วงห้ามเผา ขอให้จัดระเบียบการเผาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น “

ส่วนปัญหาหมอกควันข้ามแดน นายกรัฐมนตรีได้มีสารไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือควบคุมการเผา และ ทส. ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานเลขาธิการอาเซียนและประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขงอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ร่วมกัน