ผู้ค้าไก่ไข่เตรียมบุกพาณิชย์ สัปดาห์หน้า ร้องแก้ปัญหาไข่ไก่ราคาตก ผลจากห้ามส่งออก 30 วัน พบไข่ตกค้างในระบบ 100 ล้านฟอง วอนขอสภาพคล่อง 250 ล้านบาทระบายไข่ไก่
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า สมาคมฯ จะเดินทางไปกระทรวงพาณิชย์เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ เนื่องจากขณะนี้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยลดลงมา 40 สตางค์ เหลือฟองละ 2.40 บาท จากเดิมฟองละราคา 2.80 บาทซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายห้ามการส่งออกไข่ไก่ 30 วันก่อนหน้านี้
ดังนั้น สิ่งที่สมาคมฯต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือโดยพิจารณาขออนุมัติให้ผู้ส่งออกไข่ไก่สามารถกู้ยืมเงินจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร (คชก.) เพื่อเสริมสภาพคล่องในการรับซื้อไข่ไก่จากเกษตรกร โดยคาดว่าจะใช้เงินในส่วนนี้ประมาณ 250 ล้านบาท เพราะจากปัญหาห้ามส่งออกไข่ไก่ที่ผ่านมาทำให้สต็อกเพิ่ม ไข่ไก่ล้นตลาด นอกจากนี้ ผู้นำเข้าไข่ไก่ที่เคยนำเข้าจากไทยก็หันไปนำเข้าจากประเทศอื่น ดังนั้น จึงต้องการให้รัฐเข้าช่วยเหลือพร้อมรณรงค์ให้ประชาชนหันมากินไข่ไก่มากขึ้น
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหากผู้ส่งออกไข่ไก่มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และสามารถเร่งระบายไข่ไก่ออกไปต่างประเทศ ผู้ส่งออกสามารถนำเงินมาคืนได้ภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ การกู้ยืมจะต้องปลอดดอกเบี้ย เนื่องจากผู้ประกอบการในระบบได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายของภาครัฐที่ห้ามการส่งออกไข่ไก่ ซึ่งปกติจะส่งออกได้วันละ 1- 2 ล้านฟองต่อวัน ประกอบกับช่วงนี้เกิดภาวะแล้งและสภาพอากาศร้อนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่มีต้นทุนในการดูแลฟาร์มสูงขึ้น เช่น ในบางพื้นที่ขาดน้ำที่จะใช้ในฟาร์มก็ต้องซื้อน้ำจากพื้นที่อื่นเข้ามาเพื่อใช้ในฟาร์มและลดความร้อนให้กับฟาร์ม
“สิ่งที่เกษตรกรอยากให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการคือให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุดเพราะที่ผ่านมาสมาคมฯที่มีสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ของผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐมาโดยตลอดและเคยส่งสัญญาณไปว่าภาครัฐไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องของกลไกตลาดโดยเฉพาะการห้ามการส่งออก เพราะจะทำให้ราคาตกต่ำและการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำใช้เวลายาวนานต่อไปนี้จึงอยากให้ภาครัฐรับฟังเสียงของเกษตรกรให้มากกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะกระแสในโซเชียล “
จากกรณีที่มี กระแสไข่ไก่ขาดแคลนและมีราคาแพง ซึ่งเกิดจากผู้ค้าบางรายโก่งราคาและกักตุนสินค้าทำให้กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้ามากำกับดูแล และมีนโยบายห้ามการส่งออกซึ่งจากประเด็นดังกล่าวแม้ว่ากระทรวงพาณิชย์จะยกเลิกคำสั่งห้ามการส่งออกแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าสำคัญ คือ ฮ่องกงและสิงคโปร์ต่างหันไปสั่งนำเข้าไข่ไก่จากประเทศอื่นทดแทนไข่ไก่จากประเทศไทย ส่งผลให้มีไข่ไก่ตกค้างอยู่ในระบบรวมแล้วกว่า 100 ล้านฟอง ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน