เศรษฐกิจในประเทศ

“สนธิรัตน์” ฝากผู้ว่า ปตท.คนใหม่ ฝ่าวิกฤตโควิด-19

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ในฐานะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่า ปตท. คนใหม่ ว่า ขอให้กลุ่ม ปตท.ช่วยรับไบโอดีเซล บี 100 เพื่อมาผสมน้ำมันและช่วยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ ) เพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องของราคาโดยกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างกำหนดนโยบายให้โรงงานผลิตบี 100 รับซื้อปาล์มซีพีโอด้วยระบบบล็อกเชนโดยใช้กลไกป้องกันการตัดราคา ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและมุ่งเน้นรักษาเสถียรภาพราคาซีพีโอกับราคาผลปาล์มดิบทั้งหมดให้สามารถสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยเกษตรกรจะต้องได้รับราคาที่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมระหว่างกรมธุรกิจพลังงาน โรงงาน ผู้ค้าน้ำมัน หารือเพื่อกำหนดแนวทางในการเริ่มใช้กลไกบล็อคเชนดังกล่าว โดยประเมินว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้เบื้องต้นประมาณ 60 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มได้ภายในเดือนมิถุนายน พร้อมทั้งหารือแนวทางประกาศ บี10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ในวันที่ 1 ต.ค. อีกด้วย

สำหรับ ปริมาณปาล์มน้ำมันดิบ (ซีพีโอ) ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 250,000 ตัน ราคาผลปาล์มดิบอยู่ที่ประมาณ 2.70 บาท/กก. ซึ่งต่ำกว่าที่ควรจะเป็นที่ราคาผลปาล์มดิบอยู่ที่ ประมาณ 3.50 บาท/กก. ซึ่งเป็นกลไกที่ผิดปกติจึงต้องหาแนวทางดูดซับปาล์มให้สมดุลโดยเร็วซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ช่วยรับซื้อไปผลิตไฟฟ้าไปแล้ว 37,000 ตัน

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายอรรถพลเข้ารับตำแหน่งในช่วงเกิดวิกฤตอย่างมาก ขอให้กำลังใจในการทำงานอย่างเต็มกำลัง เพราะมารับหน้าที่ในช่วงที่ผลประกอบการลดลง ประกอบกับเป็นช่วงขาลงของราคาน้ำมัน ฝากให้นายอรรถพลแก้วิกฤตผลกระทบโควิด-19 และนำพาบริษัทกลับไปสู่ปกติโดยเร็ว

“เวลานี้ใครเป็นผู้บริหารที่ไหนก็ต้องใช้พลังกายและใจอย่างมาก ขอให้นายอรรถพลทุ่มเท ทำงาน และเราจะร่วมทำงานใกล้ชิดกัน เพราะการกู้วิกฤตด้านพลังงานขณะนี้สำคัญมาก ส่วนภารกิจกระทรวงนั้นอาจจะรื้อนโยบายเก่ามาดูเพราะโควิด-19 จะยังไม่จบแค่นี้และหลังจากนี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากหลายปัจจัยมากขึ้นด้วย”

โดยเบื้องต้น กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหารือถึงแพคเกจแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน ซึ่งจะเน้นการดูแลเศรษฐกิจจากฐานราก และอาจจะมีการปรับแผนการทำงานเนื่องจากมีการใช้น้ำมันที่ลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศและอาจจะรื้อนโยบายที่มีเพื่อปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ส่วนความคืบหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน คาดว่าจะเปิดรับซื้อได้ภายในเดือนมิถุนายน โดยยอมรับว่ายังมีข้อท้วงติงและเกณฑ์เงื่อนไขมากพอสมควร ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะเร่งรัดโครงการให้ดำเนินงานตามแผนที่กำหนดจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ปี 2564 ประกอบกับเพื่อให้สอดคล้องตามกรอบแผนพัฒนาไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า