โควิด-ขาดแคลนชิป ฉุดเป้าผลิตรถปี’64 เหลือแค่ 1.5 ล้านคัน

ผลิตรถยนต์
แฟ้มภาพ

ส.อ.ท. ยังไม่ปรับเป้าผลิตรถยนต์หลังโควิด-19 ระลอก 3 และปัญหาขาดแคลนชิปยังทำอุตสาหกรรมยานยนต์สะเทือน คงเป้ายอดผลิตปี 64 ที่ 1.5 ล้านคัน ขณะที่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ยอดผลิตลดถึง 35.8% ส่วนยอดขายลด 21.76% หลังลูกค้าเลื่อนรับรถ เหตุไม่มั่นใจรายได้ในอนาคต

วันที่ 20 พ.ค.2564 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึง สถานการณ์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ว่า เดือน เม.ย. 2564 มีจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ 104,355 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 322.3% แต่ลดลงจากเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 35.79% ซึ่งเป้ายอดการผลิตปี 2564 ตั้งไว้ที่ 1,500,000 คัน

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

ทั้งนี้เป็นเป้าต่ำสุดที่คำนึงถึงการระบาดของโควิด -19 ทั้งระลอก 2 และ 3 รวมทั้งการขาดแคลนชิปที่ทำให้โรงงานผลิต รถยนต์ทั่วโล รวมประเทศไทย ต้องหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ เพราะยังกังวลเรื่องการระบาดของโควิด -19 ที่พบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่รวมถึงเรื่อง การขาดแคลนชิป ขณะที่จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 570,188 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.19%

“ปัญหาเรื่องของการขาดแคลนชิบยังเป็นประเด็น ที่อุตสาหกรรมห่วงอาจมีผลกระทบต่อการเลิกจ้างหรือชะลอการจ้างงานไว้ก่อน แต่มันจะคล้ายการล้อคดาวน์ ที่ต่อให้หยุดผิลตชั่วคราวแต่ก็ยังได้รับเงินเดือน”
ในส่วนของการผลิตเพื่อส่งออกเดือน เม.ย. 2564 ผลิตได้ 59,684 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 335.24% และเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 330,379 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.45%

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือน เม.ย. 2564 ผลิตได้ 44,671 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 306.17% และเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 ผลิตได้ 239,809 คัน เพิ่มขึ้นจาก 13.77% รถจักรยานยนต์ เดือน เม.ย. 2564 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 160,357 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 92.98% ยอดผลิตช่วงเดือนม.ค. – เม.ย. 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 835,195 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17.85%

ในส่วนของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ เดือน เม.ย. 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,132 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 93.1% แต่ก็ยัง ลดลงจากเดือน มี.ค. 2564 กว่า 21.76% เพราะลูกค้าเลื่อนการรับรถ รวมทั้งบริษัทปล่อยสินเชื่อเข้มงวดในการอนุมัติ สินเชื่อ ซึ่งตัวเลขช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 รถยนต์มียอดขาย 252,269 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9.6% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 569,293 คัน เพิ่มขึ้น 11.71%

ส่วนการส่งออกเดือน เม.ย. 2564 ส่งออกได้ 52,880 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 160.16% แต่ลดลงจากเดือน มี.ค. 2564 ถึง 49.40% ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 30,071.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 142.73% อย่างไรก็ตามจากการมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นของประเทศคู่ค้า ทำให้ยอดขายของประเทศคู่ค้าในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เติบโตโดดเด่น เช่น ประเทศ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซียที่โตสูงถึง 1,002%