เอกชนไทย–ลาว ขยายโอกาสการค้า ลงทุน เสนอรัฐเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์

สนั่น อังอุบลกุล
สนั่น อังอุบลกุล

เอกชนไทย–ลาวเดินหน้าขยายโอกาสการค้า ลงทุน ท่องเที่ยว เสนอรัฐเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกมิติ

วันที่ 2 มิถุนายน 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ ฯพณฯ พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2565 ถือเป็นโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะได้กระชับความสัมพันธ์ และร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย–ลาว ให้ก้าวหน้าต่อไป โดยเฉพาะในบริบทการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบัน

โดยไทยและ สปป.ลาว มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนาน ทั้งในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขยายฐานการผลิต การกระจายสินค้า การท่องเที่ยว และการจ้างงานโดยงานนี้มีนักธุรกิจชาวไทยและชาว สปป.ลาว เข้าร่วมงานกว่า 200 คน เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาคเอกชนไทยกับ สปป.ลาว

ทั้งนี้ ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความเชื่อมโยงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกมิติผ่านรถไฟลาว-จีน โดยเฉพาะการกระจายสินค้าต่าง ๆ ของไทย รวมถึงการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตขนส่งและส่งออกผลไม้ไทย นอกจากนี้ยังได้พูดคุยในประเด็นการเสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจ และการส่งเสริมการลงทุนของสองประเทศ และใช้ประโยชน์ของการที่ทั้งสองประเทศอยู่ในห่วงโซ่อุปทานและระบบนิเวศในการประกอบธุรกิจเดียวกัน (shared business ecosystem) ซึ่งภาคเอกชนของสองประเทศเห็นตรงกันว่า

ประเด็นการขับเคลื่อนโลจิสติกส์ การเกษตร ไอที อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เป็นสาขาที่มีศักยภาพ ที่จะต้องร่วมกันขยายโอกาสการค้าการลงทุนให้มากขึ้น

นอกจากนี้ หอการค้าฯก็ได้มีการหารือร่วมกับสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติ สปป.ลาว โดยทางสภาหอการค้าฯได้ขอความร่วมมือจากเรา ในการจัดหาทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาลาว ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก การตั้ง Task force โดยมีกรรมการของทั้ง 2 ประเทศทำงานร่วมกันในการที่จะทำงานวิจัยด้านปัญหาและโอกาสทางการค้าชายแดน

โดยใช้สถาบันการศึกษาของทั้งสองประเทศ ในการให้เกิดการเป็นกลางในการทำวิจัย เพื่อเสนอให้กับทางรัฐบาลทั้งสองฝ่าย และด้านการท่องเที่ยว เรียนรู้จากความสำเร็จของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว เพื่อที่จะไปพัฒนาการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

“หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการผลักดันนโยบายและโครงการต่าง ๆ ที่เพิ่มพูนประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสองประเทศ โดยใช้เครือข่ายหอการค้าจังหวัดที่มีชายแดนติดกับ สปป.ลาว 10 จังหวัด ตลอดจนสภาธุรกิจไทย-ลาว ขับเคลื่อนการเชื่อมโยงภาคการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ให้เกิดประสิทธิผลในการพัฒนาภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน”

ด้าน นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการกลุ่มการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดน กล่าวว่า ในการเสวนาหัวข้อวิสัยทัศน์และโอกาสจากความเชื่อมโยงการเปิดใช้รถไฟลาว-จีน และมุมมอง/ความเห็นจากกลุ่มผู้ให้บริการและกลุ่มผู้ใช้บริการ ว่าภาคเอกชนไทยมีข้อเสนอแนะที่ต้องการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ (ไทย สปป.ลาว และจีน) ผ่าน 7 ข้อเสนอ คือ 1) ส่งเสริมและสนับสนุนการค้าชายแดน และการค้าข้ามแดนระหว่าง 3 ประเทศ โดยมีปริมาณและมูลค่าของสินค้าในการนำเข้าและส่งออกผ่านแดนที่ใกล้เคียงกัน และเกิดความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย

2) สนับสนุนและส่งเสริมท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นท่าเรือแห่งภูมิภาค เพื่อรับและส่งสินค้า (Transshipment and Transit) เพื่อเชื่อมโยง 3 ประเทศ และเปิดทางออกสู่ทะเลให้กับลาว และจีนตอนใต้ เหมือนท่าเรือ Hamburg ประเทศเยอรมนีที่เชื่อมโยงระบบรถ เรือ ราง ของยุโรปตอนกลางและยุโรปตะวันออกเข้าด้วยกัน

3) สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกสำหรับการค้าผ่านแดนและค้าข้ามแดน โดยการบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงเกษตรฯ (CIQ) ในจุดเดียวกัน (One Stop Service) เพื่อลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกในการทำพิธีการต่าง ๆ ระหว่างประเทศ 4) จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ (PMO) ในการบริหารโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานเข้าด้วยกัน

5) พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลในระบบรางแบบ Electronic ผ่าน National Single Window : NSW ระหว่าง ไทย–ลาว–จีน (แหลมฉบัง-คุoหมิง) 6) พัฒนาระบบการจัดเก็บเอกสารและการเงิน แบบ Electronic โดย National Digital Trade Platform : NDTP เพื่อลดขั้นตอนทางเอกสารระหว่างประเทศ (ไทย-ลาว-จีน) 7) พัฒนาระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ : Cold Chain Logistics สำหรับการส่งออก พืช ผัก ผลไม้ อาหารทะเล ระหว่างประเทศ