ส.อ.ท.จี้รัฐเร่งเจรจาหาแหล่งวัตถุดิบนำเข้าใหม่ สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ

วัตถุดิบอาหารสัตว์

ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. 2565 ร่วงอีกเดือน หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อไร้ความสงบ ราคาน้ำมันพุ่ง วัตถุดิบขาดแคลนทั่วโลก แนะรัฐส่งเสริมวัตถุดิบในประเทศ พร้อมเร่งเจรจาหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ทั้งปุ๋ย อาหารสัตว์ สารเคมี จากประเทศอื่น รวมถึงต่อรองความเป็นพันธมิตรกับรัสเซียโดยตรง หวังเปิดท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

วันที่ 9 มิถุนายน 2565 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. 2565 อยู่ที่ระดับ 84.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 86.2 ในเดือน เม.ย ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น

เกรียงไกร เธียรนุกุล
เกรียงไกร เธียรนุกุล

ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นตาม กระทบต่อผู้ประกอบการภาคการผลิตโดยเฉพาะ SMEs ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังฟื้นตัวช้า จากปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง สะท้อนจากดัชนี คำสั่งซื้อและยอดขายที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากผลกระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งการปิดเมืองของจีนส่งผลให้เกิดปัญหา Supply shortage โดยเฉพาะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อใช้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ภายหลังการระบาดของสายพันธุ์ Omicron ลดลงทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายเปิดประเทศและการยกเลิกระบบ Test & Go ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ

สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 96.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 95.9 ในเดือนเมษายน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ การปลดล็อกมาตรการควบคุมโควิด-19 รวมถึงการที่ภาครัฐจะพิจารณาให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งผู้ประกอบการมองว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังมีความไม่แน่นอน อาจเป็นปัจจัยที่บั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

ดังนั้น จึงเสนอต่อภาครัฐ 4 ข้อ 1.เสนอให้ภาครัฐช่วยเจรจาหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ที่มีศักยภาพมาทดแทน โดยเฉพาะปุ๋ย อาหารสัตว์ สารเคมี เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในประเทศให้มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศและเพื่อความมั่นคงระยะยาว

2.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เช่น เงินอุดหนุนรักษาการจ้างงาน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ

3.เสนอภาครัฐเปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ และออกมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2565 และ 4.ดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม