สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2565 คือ เด็กมีคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยลดลง ต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ทำให้จำนวนนักศึกษาที่รับเข้าในปีนี้ ไม่เต็มตามโควตาเป็นครั้งแรก
วันที่ 28 กันยายน 2565 ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การศึกษาปัจจุบันมีความท้าทายในหลายมิติ ทั้งเรื่องงบจากรัฐบาลไม่เพียงพอ เหตุการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนของเด็ก เป็นต้น
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
งบจากรัฐบาลไม่เพียงพอ
ศ.ดร.รุธิร์กล่าวว่า ความท้าทายอย่างแรกคือ มหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่ได้รับงบจากรัฐบาลที่เพียงพอต่อการให้บริการแก่นักศึกษา หมายความว่า มหาวิทยาลัยรัฐบาลก็ต้องหาเงินเพื่อมาเลี้ยงตัวเองมากยิ่งขึ้น
“ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่สร้างความท้าทายแก่มหาวิทยาลัยรัฐบาล เพราะโดยปกติแล้ว มหาวิทยาลัยไม่ได้มีหน้าที่ในการทำธุรกิจ และกรอบกฎระเบียบแบบเดิม ๆ ก็ไม่เอื้ออำนวยให้มหาวิทยาลัยนั้นสามารถลงทุนได้ ในการจัดตั้งบริษัท หรือแม้กระทั่งไปมีส่วนร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในสตาร์ตอัพใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น”
เทรนด์เด็กยุคนี้เลือกไปเรียนไหน
เด็กกลุ่มหนึ่งจะเลือกไปเรียนต่างประเทศเลยตั้งแต่ปริญญาตรี แต่มหาวิทยาลัยของรัฐก็มีความน่าสนใจ ที่อยู่เหนือมหาวิทยาลัยเอกชน อย่างคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มุ่งเน้นผลิตบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ โดยได้รับการยอมรับไปทั่วโลกผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติจากสถาบันหลักด้านการบริหารธุรกิจของโลก EQUIS (ปี 2555-ปี 2567) จากสหภาพยุโรป เป็นครั้งที่ 3 และ AMBA (ปี 2561-ปี 2567) จากสหราชอาณาจักร เป็นครั้งที่ 2
“ความยากจริง ๆ นั้นอยู่ตรงที่ว่า นักศึกษาไม่ค่อยรู้เหมือนกันว่าตัวเองต้องการอะไร หรือได้รับคำแนะนำมาจากบุพการีว่าต้องเรียนแบบนู้น แบบนี้ โดยยังไม่มีเวลาในการค้นหาตัวเอง มหาวิทยาลัยรัฐ-มหาวิทยาลัยเอกชน สุดท้ายมันไม่สำคัญเท่ากับว่า มหาวิทยาลัยแห่งนั้น หลักสูตรแห่งนั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษาได้หรือเปล่า” ศ.ดร.รุธิร์กล่าว
คะแนนสอบลด กระทบเก้าอี้ว่าง
ศ.ดร.รุธิร์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2565 คือ คะแนนที่ถูกนำมาใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนในส่วนของคณิตศาสตร์นั้น ต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
“ทำให้จำนวนนักศึกษาที่รับเข้าในปีนี้ ไม่เต็มตามโควตาเป็นครั้งแรก ซึ่งคณะกรรมการในคณะมองว่า เรามีมาตรฐานของเรา ดังนั้นยังจำเป็นต้องคงเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว มันก็เป็นคำถามที่เกิดขึ้นว่า แล้วทำไมคะแนนของเด็กในปีนี้ถึงต่ำมาก ?”
ม.รัฐ ควรลดมาตรฐาน หรือไม่
“บางที่ก็พร้อมที่จะลดคะแนนตนเอง แต่ในส่วนของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของเรามองว่า นี่คือมาตรฐานที่เรากำหนดเอาไว้ การที่เรามีมาตรฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ การรับเด็กที่ไม่ครบตามจำนวนโควตาก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่มันสะท้อนกลับมาที่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น และทำไมคะแนนในภาพรวมในระดับของประเทศ คะแนนเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเลขนั้นตกต่ำขนาดนี้” ศ.ดร.รุธิร์กล่าว
ทำไมคะแนนเด็กถึงน้อยลง
ศ.ดร.รุธิร์อธิบายว่า เหตุผลที่คะแนนเด็กนั้นน้อยลง ประเด็นแรกเลยคือ ความไม่แน่นอนในเรื่องของตัวข้อสอบ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงกันอยู่ตลอดเวลา ในลักษณะของตัวเงื่อนไข ลักษณะของตัวข้อสอบในการเข้ามหาวิทยาลัย
“แต่ผมว่าปัญหาอันใหญ่สุดมาจากการที่เราเจอเหตุการณ์โควิด และนักเรียนเรียนออนไลน์มา 2 ปีแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นการสะท้อนว่าการเรียนออนไลน์โดยที่ไม่มีความพร้อมอย่างแท้จริง เด็กเองก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้ และเมื่อมาเจอสถานการณ์ว่า ต้องสอบในห้องกันจริง ๆ ก็เลยไม่มีความคุ้นเคย ไม่มีความเคยชิน การเตรียมความพร้อมมาแค่ไหน ก็ทำให้ในความเป็นจริงแล้ว ไม่พร้อมที่จะสอบ และไม่มีกระบวนการในการสร้างความมั่นใจว่า เขาถึงเกณฑ์แล้วรึยัง”
ควรแก้ปัญหาอย่างไร
ต้องย้อนกลับมามองที่ต้นเหตุของปัญหา ไม่ใช่แก้ที่ปลายทางด้วยวิธีให้ทางฝั่งของมหาวิทยาลัยลดมาตรฐาน เพื่อจะได้รับเด็กได้เต็มโควตา เก้าอี้จะได้เต็ม แต่เราต้องหันไปดูว่า โรงเรียนมัธยมและโรงเรียนประถมสามารถเพิ่มมาตรฐานตัวเองได้หรือไม่
“จริง ๆ แล้วมันต้องมองถึงระบบการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ระบบการศึกษาประเทศไทยในภาพรวมนั้น ล้มเหลว ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะให้ความสำคัญกับการเรียนการสอน กับการสร้างประชาชนชาวไทย ที่มีความรู้มีความสามารถ โดยมาปรับปรุง ปรับเปลี่ยนกระบวนการด้านการศึกษาทั้งหมด ขอให้มีปรัชญาออกมาที่ชัดเจน มหาวิทยาลัยเรารับตอนเขาโตแล้ว มันช้าเกินไป ต้องย้อนกลับไปเลย ที่จุดเริ่มต้น”