“ห้องสมุด” ถือเป็นคลังความรู้ที่ไม่มีวันหมด ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกต่างมีหอสมุดที่พร้อมสรรพด้วยทรัพยากรความรู้หลากรูปแบบ มีเทคโนโลยี และอำนวยความสะดวกในการสืบค้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศ เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ และไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ
หลักคิดหรือไอเดียของผู้นำความคิดหรือนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างก็มาจากห้องสมุดคุณภาพ อาทิ ห้องสมุดแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพระดับโลก หรือห้องสมุดด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อเสียงด้านกฎหมายเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ฯลฯ
เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีห้องสมุดมาตรฐานระดับโลกอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งพร้อมจุดประกายไอเดีย และเติมเต็มความรู้แก่นักศึกษา รวมถึงผู้ใช้บริการทั่วประเทศในการสืบค้นและเรียนรู้
“รศ.เกศินี วิฑูรชาติ” อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า มธ.มีนโยบายในการพัฒนาห้องสมุดให้เป็นแหล่งเรียนรู้เฉพาะด้าน มีความโดดเด่นและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนในพื้นที่ ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ “หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เป็นคลังความรู้คุณภาพ รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดไอเดียสร้างสรรค์แปลกใหม่ ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการสืบค้นหลากรูปแบบ สู่การเติมเต็มความรู้ของนักศึกษาและประชาชนโดยรอบ
สำหรับรายละเอียดของห้องสมุดของมธ. มีดังนี้
• หอสมุดปรีดี พนมยงค์ : แหล่งรวมหนังสือมรดกล้ำค่าของชาติ
หอสมุดชั้นใต้ดินแห่งแรกของไทย ณ ศูนย์ท่าพระจันทร์ ด้วยพื้นที่กว่า 11,460 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 ชั้น เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือหายากล้ำค่า และมรดกความรู้ของชาติ อย่างต้นฉบับตัวเขียน พงศาวดาร หนังสือจัดพิมพ์ในวาระโอกาสพิเศษ หนังสืออนุสรณ์งานศพบุคคลสำคัญของไทย หนังสือแบบเรียนด้านกฎหมายในอดีตที่ในปัจจุบันไม่สามารถหาซื้อ หรือหาอ่านจากที่อื่นได้
นอกจากนี้ ยังมีทรัพยากรสารสนเทศรวมกว่า 300,000 รายการ เพื่อการศึกษาทั้งในด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ประวัติศาสตร์และการเมือง ฯลฯ โดยภายในหอสมุดมีหนังสือต่างประเทศกว่า 100,000 รายการ ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส ฯลฯ และสื่อมัลติมีเดียกว่า 21,000 รายการ ที่พร้อมให้บริการแก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้นั่งอ่านหนังสือ และค้นคว้าสื่อประเภทต่างๆ กว่า 1,300 ที่นั่ง
• หอสมุดป๋วย อึ้งภากรณ์ : โดดเด่นด้วยพื้นที่ฟรีสไตล์ รองรับการเรียนรู้หลากรูปแบบ
หอสมุดขนาดใหญ่และโดดเด่นด้วยพื้นที่กว่า 18,700 ตารางเมตร ก่อตั้งขึ้นในปี 2545 ณ ศูนย์รังสิต เพื่อรองรับการขยายตัวของมหาวิทยาลัย และกระจายการศึกษาสู่ปริ มณฑล โดยมุ่งส่งเสริมและกระตุ้นการเรียนรู้แก่นักศึกษา รวมถึงประชาชนโดยรอบ ด้วยการจัดแบ่งพื้นที่ และบรรยายกาศของห้องสมุด ที่สามารถเลือกพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมได้ตามต้องการ ทั้งนี้ ในแต่ละวันมีนักศึกษาหมุนเวียนมาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3,000 – 4,000 คน
• ห้องสมุดบุญชู ตรีทอง : แหล่งเรียนรู้ทันสมัยแห่งใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือ
ห้องสมุดที่พร้อมสรรพด้วยหนังสือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกจัดสร้างขึ้น ณ ศูนย์ลำปาง ในปี 2540 ด้วยนโยบายของมธ.ที่มุ่งขยายความรู้สู่พื้นที่ภาคเหนือ สร้างความเท่าเทียมแก่เยาวชนในพื้นที่ด้านการค้นคว้าความรู้เช่นเดียวกั บเยาวชนในกรุงเทพฯ
พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากคุณบุญชู ตรีทอง จึงได้จัดสร้างอาคารนวัตกรรมบริการ และเปิดพื้นที่ชั้น 2 และ 3 ให้เป็นพื้นที่บริการห้องสมุดบุญชู ตรีทองแห่งใหม่ เมื่อเดือนพ.ย.2560 ซึ่งภายในพื้นที่รวม 2 ชั้น มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง และทรัพยากรสารสนเทศที่ให้บริการกว่า 82,000 รายการ
โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งด้านกฎหมาย วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาธารณสุขเพื่อชุมชน ฯลฯ ที่สามารถนำไปผสมผสานหรือประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาท้องถิ่นได้หลากรูปแบบ ทั้งการยกระดับสินค้า พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้เสริมแก่วิ สาหกิจชุมชน รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายแก่ชุมชน เพื่อป้องกันการโดนละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า อันเนื่องมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น
ทั้งนี้ หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนภายใต้นโยบายการพัฒนานวัตกรรมและบริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ การวิจัยของนักศึกษาในทุกที่ทุกเวลา
อาทิ ระบบค้นหาแบบ Single Search ที่สามารถค้นทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุด และห้องสมุดเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ และระบบการยืมระหว่างห้องสมุดออนไลน์ ที่สามารถส่งคำขอใช้บริการ และตรวจสอบสถานะการใช้บริการได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งเรียนรู้ด้านวิศวฯยานยนต์แห่งภาคตะวันออก ณ ห้องสมุด มธ.ศูนย์พัทยา ที่พร้อมเปิดมุมมองการเรียนรู้ ด้านวิศวกรรมยานยนต์ วิศวกรรมซอฟแวร์ และระบบการสั่งการด้วยเทคโนโลยีจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)