“TIP” ประกันภัยรายแรกในไทยได้รับใบรับรองมาตรฐานโลกISO/IEC 27001

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย (TIP) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้รับใบรับรองระบบมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 จาก United Kingdom Accreditation Service (UKAS) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจรับรองมาตรฐานระดับโลกของประเทศอังกฤษ โดยทิพยฯถือเป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกของไทยที่ได้รับการรับรองทุกระบบด้านไอทีสารสนเทศในองค์กรในการดำเนินธุรกิจประกันภัย

“สิ่งที่เราตั้งใจทำมาตลอดคือการคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเมื่อไรก็ตามที่ทำธุรกรรมบนออนไลน์กับบริษัทจะได้รับปลอดภัยแน่นอน” ดร.สมพรกล่าว

ดร.สมพร กล่าวว่า เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็น “Digital Insurance” อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทได้ให้ความสำคัญในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าจากภัยคุกคามทาง ไซเบอร์อย่างจริงจัง และสอดคล้องกับประกาศฉบับใหม่ของคปภ. เรื่อง “หลักเกณฑ์ วิธีการออกกรมธรรม์ประกันภัย การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย และการชดใช้เงิน หรือค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2560” เพื่อให้เห็นถึงความพร้อมในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อปี 2542 ถือว่าเป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกของไทยที่ได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9002 ทุกระบบขององค์กรจวบจนปัจจุบันเรายังมุ่งพัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ ISO9001 โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงในธุรกิจประกันภัย เพื่อยกระดับความพึงพอใจต่อลูกค้า และสร้างโอกาสทางธุรกิจและความเชื่อมั่นต่อคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เห็นว่า ทิพยประกันภัยยังคงรักษาระบบการบริหารงานและกระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

“การที่บริษัทฯได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง 2 ระบบมาตรฐานสากลนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้องค์กรในยุค Digital ที่คนส่วนใหญ่หันมาทำธุรกรรมผ่านทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้เราต้องยิ่งพัฒนาในด้านการให้บริการเพื่อสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า กลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัพหรือนวัตกรรมด้านการบริการต่างๆ โดยสามารถยกระดับมาตรฐานของคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยของข้อมูล ผ่านระบบสารสนเทศหลักของธุรกิจที่มีความมั่นคง ปลอดภัยต่อความเสี่ยงหรือวิกฤตต่างๆได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ” ดร.สมพรกล่าว

ดร.สมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำระบบทั้งสองมาประยุกต์ใช้ในทุกรูปแบบจะสร้างความได้เปรียบทางด้านธุรกิจ ทั้งด้านคุณภาพการบริการ การจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัยของข้อมูล สร้างโอกาสทางธุรกิจ สามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

ด้านนายจิโรจ ณ นคร กรรการผู้จัดการ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (SGS) กล่าวว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจสอบการรับรองระบบดังกล่าว โดยใบรับรองมาตรฐานนี้จะมีอายุ 3 ปี หลังจากนั้นจะมีการประเมินใหม่ปีละ 1 ครั้ง