CHASE เข้าเทรดพรุ่งนี้ “เฮียฮ้อ-ประชา” ยืนยันไม่ขายหุ้นหลัง IPO เน้นถือยาว

ประชา ชัยสุวรรณ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์
ประชา ชัยสุวรรณ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์

เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ RS กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ “เชฎฐ์ เอเชีย” ยืนยันไม่ขายหุ้นออกหลังไอพีโอ 21 ก.พ.นี้ เน้นถือยาว มั่นใจธุรกิจเติบโตสูง เดินแผนซื้อหนี้เสียปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ 51% ผมเชื่อมั่นในการทำงานของคณะผู้บริหารและทีมงานว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเอเอ็มซีที่สถานการณ์ขณะนี้อยู่ในช่วงน่าลงทุนซื้อหนี้มาบริหารเพิ่ม ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจขาขึ้นจะส่งผลให้อัตราความสำเร็จในการเก็บหนี้มีมากขึ้น ด้วยปัจจัยหนุนต่าง ๆ จึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผลประกอบการสามารถโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กล่าวย้ำว่า ตั้งแต่ในปี 2564 ที่อาร์เอส กรุ๊ป ได้เข้าการลงทุนใน CHASE เราได้ทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่อขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ร่วมกัน โดยเล็งเห็นว่าหลังจากเข้าระดมทุนไอพีโอแล้ว ยังมีโอกาสทางธุรกิจระหว่าง CHASE และ RS ที่จะร่วมมือกันอีกมาก

เรามั่นใจศักยภาพของ CHASE ในฐานะผู้นำการให้บริการบริหารจัดการหนี้สินอย่างครบวงจร ผสานกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แข็งแกร่งของ RS จะทำให้เกิดการเติบโตร่วมกันในหลายมิติ อาทิ การยกระดับการให้บริการลูกค้ากลยุทธ์การทำตลาด การขยายฐานลูกค้า และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

ทั้งนี้ยืนยันว่าหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทาง RS จะคงรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 20.35% เพื่อเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Investment) ในระยะยาว นักลงทุนของ CHASE จึงสามารถมั่นใจได้ว่าหุ้น CHASE จะมีเสถียรภาพ จากการเติบโตของผลประกอบการหลังไอพีโอ รวมถึงปริมาณ Free Float ของหุ้นที่จำกัด ประกอบกับหุ้นนอก Silent ทั้งหมดจำนวน 331 ล้านหุ้น เป็นของ RS ดังนั้นจะไม่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น CHASE ออกมาในตลาดหลังไอพีโอ

นายประชากล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นจุดเริ่มต้นในการปูรากฐานให้ CHASE ขยายธุรกิจได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งเราวางแผนที่จะขยายทั้งธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) และธุรกิจให้บริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน (Collection) อย่างก้าวกระโดด เราตั้งเป้าที่จะซื้อเอ็นพีแอลปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสินทรัพย์หนี้เสียในพอร์ต พร้อมขยายทีมเร่งรัดติดตามหนี้สินเพื่อรองรับความต้องการในการติดตามทวงถามหนี้ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต

อนึ่ง CHASE ผู้ให้บริการติดตามทวงถามและบริหารหนี้เสีย มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ. 2566) หลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน แห่จองซื้อหุ้นไอพีโออย่างล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพที่โดดเด่นของ CHASE

โดยมีคุณประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้คร่ำหวอดในวงการกว่า 30 ปี นำทีมผู้บริหารแกร่งและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินและกฎหมาย รวมถึงมี Strategic Partner ที่สำคัญอย่าง บมจ.อาร์เอส (RS) จึงทำให้ปัจจุบัน CHASE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 กลุ่มคือ กลุ่มคุณประชา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และกลุ่ม RS ซึ่งจะถือหุ้นประมาณ 51% และ 20.35% ตามลำดับ