เจ้าหนี้ “สินมั่นคง” โหวตคว่ำแผนฟื้นฟู SMK ใช้สิทธิคัดค้านนับคะแนนใหม่

สินมั่นคงประกันภัย

เจ้าหนี้ “สินมั่นคงประกันภัย” โหวตคว่ำแผนฟื้นฟูกิจการ ด้านสินมั่นคงฯใช้สิทธิคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลางขอนับคะแนนใหม่ ด้าน “ศาลล้มละลาย” กำหนด 1 พ.ย. 2566 เพื่อมีคำสั่งยุติการฟื้นฟูกิจการ จับตา คปภ.แทกเอคชั่น

วันที่ 27 กันยายน 2566 แหล่งข่าวเจ้าหนี้ของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าการประชุมเจ้าหนี้ทั้ง 18 กลุ่ม เพื่อพิจารณาโหวตแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทสินมั่นคงประกันภัยในวันนี้นั้น มีมติ “ไม่ยอมรับแผน” ในสัดส่วน 52.72% ขณะที่มีผู้ยอมรับแผน 47.28%

โดยเจ้าหนี้โควิดกลุ่มที่ 2 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิด เจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ยังไม่ได้รับการชำระ) ไม่ยอมรับแผนจำนวน 76,210 ราย จำนวนเงิน 6,650.17 ล้านบาท สัดส่วน 53.28% และกลุ่มที่ 3 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิด เจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ได้รับการชำระแล้วบางส่วน) จำนวน 526 ราย จำนวนเงิน 34.64 ล้านบาท สัดส่วน 64.80%

ทั้งนี้เจ้าหนี้ที่มีการลงมติประชุมทั้งหมดทุกกลุ่ม ทั้งยอมรับแผน ไม่ยอมรับแผน และงดออกเสียง มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 149,603 ราย คิดเป็นจำนวนเงิน 12,940.88 ล้านบาท

โดยกระบวนการหลังจากนี้ ศาลล้มะลายกลางได้มีการกำหนดวันพิจารณาคือวันที่ 1 พ.ย. 2566 เพื่อพิพากษา ซึ่งตามกระบวนการทางกฎหมายเมื่อ “ไม่ผ่านแผน” ศาลฯจะมีคำสั่งยุติการฟื้นฟูกิจการ โดยยกเลิกการให้ฟื้นฟูกิจการ ทำให้ทุกอย่างจะกลับกระบวนการเหมือนกรณีไม่เคยเกิดการฟื้นฟูกิจการมาก่อน สิทธิทุกอย่างจะหวนกลับคืนมาเหมือนเดิมทั้งหมด เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ และอำนาจทั้งหมดจะกลับมาอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดังนั้นต้องจับตาสำนักงาน คปภ. ว่าจะแทกเอคชั่นเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรในระยะนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากนับผลคะแนนออกมา “ไม่ยอมรับแผน” ทางด้านผู้แทนของบริษัทสินมั่นคงประกันภัย ขอใช้สิทธิทางกฎหมาย “ทำการคัดค้านการนับคะแนนในครั้งนี้ เพื่อนับคะแนนใหม่อีกครั้ง” ซึ่งการคัดค้านจะต้องทำหนังสือคำคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลาง และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องมานับคะแนนใหม่ และในกรณีนี้ศาลฯจะไปยื่นพิจารณาด้วย และพร้อม ๆ กับตัวแทนเจ้าหนี้ ซึ่งยังไม่ทราบวันเวลาที่ชัดเจน

“สำหรับบรรยากาศการประชุมวันนี้ ในช่วงรอบแรกใช้เวลาในการประมวลผล 45 นาที ครบแล้วขอขยายเวลาอีก 15 นาที และขอขยายเวลาอีก 20 นาที และขอขยายเวลาอีก 30 นาที และรอบสุดท้ายขอขยายเวลาอีก 1 ชั่วโมง” แหล่งข่าว กล่าว

นอกจากนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า “สินมั่นคงประกันภัย” จะยื่นแผนฟื้นฟูกิจการใหม่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ แต่ตามเทคนิคสามารถทำคำร้องต่อศาลฯขอเสนอแผนใหม่ เพราะแผนเดิมเจ้าหนี้ไม่เป็นที่พอใจ แต่ประเด็นคือศาลฯพิจารณาให้เองไม่ได้ กฎหมายกำหนดไว้ว่าถ้าจะเสนอแผนใหม่จะต้องสอบถามเจ้าหนี้ก่อนว่าอนุญาตหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าผู้เพิ่มทุน ทางบริษัทสินมั่นคงประกันภัยพูดไว้ก่อนการโหวตแผนว่า ยังมีความมั่นใจเพราะดีลผู้เพิ่มทุนไว้แล้ว 2 รายคือ 1.บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท พรีฟอร์มม่า จำกัด ซึ่งทั้งสองมีเงื่อนไขคือ ต้องผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ

สำหรับเงื่อนไขกรุงเทพประกันภัยกำหนดไว้ 3 อย่างคือ 1.ผ่านแผนฟื้นฟูฯ 2.ถ้าผ่านแล้วมูลค่ากิจการของสินมั่นคงประกันภัยเหลืออยู่เท่าไร 3.ต้องเข้ามติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนเงื่อนไขพรีฟอร์มม่ากำหนดไว้ 1.ใส่เงินลงทุน 5,000-10,000 ล้านบาท 2.ต้องผ่านแผนฟื้นฟูฯ