บลจ.อีสท์สปริง ออกกองทุนพันธบัตรมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 6 เดือน ชูโอกาสรับผลตอบแทน 2% ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เปิดขาย 14-21 มี.ค.นี้
วันที่ 14 มีนาคม 2567 นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุนเทอมฟันด์ประเภทพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน พร้อมโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น ทั้งรุ่นอายุ 6 เดือน และรุ่นอายุ 1 ปี ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 16,000 ล้านบาท
ดังนั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่มีอย่างต่อเนื่อง บลจ.อีสท์สปริง จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M14 (ES-GOVCP6M14) โดยมีอายุกองทุนประมาณ 6 เดือน เงินทุนโครงการ 6,000 ล้านบาท เปิดขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14-21 มีนาคมนี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
โดยกองทุน ES-GOVCP6M14 มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน เพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) ในสัดส่วนประมาณ 100% ของ NAV โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.20% ต่อปีของ NAV ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.20% ต่อปีของ NAV แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 2.00% ต่อปีของ NAV
ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน ES-GOVCP6M14 บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่ บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ หากผู้ออกตราสารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้
บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และกองทุนมีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร เป็นต้น