หุ้นไทยใกล้แนวต้าน 1,400 จุด ลุ้นวอลุ่มจากขยายเวลาเทรด

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้เข้าใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,400 จุด สัญญาณเทคนิคดูอ่อนแรง กรอบบนยังถูกจำกัด หวังช่วงสั้นฟื้นตัวตามเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้น ลุ้นวันนี้วันแรกเริ่มขยายเวลาซื้อขายหุ้นช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที ด้านคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการการเงินให้ธนาคารรัฐลดและตรึงดอกเบี้ย

วันที่ 25 มีนาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) รายงานว่า SET Index อัพไซด์ยังถูกจำกัด โดยเข้าใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,400 จุด และยังไม่ผ่าน ตลอดจนมีแรงขายเข้ามาอีกครั้ง และสัญญาณเทคนิคดูอ่อนแรง ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,390 จุด และ 1,395 จุด ตามลำดับ ขณะที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,370 จุด และ 1,360 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญคือ 1.วุฒิสภาสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และสภาได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับประธานาธิบดี โจ ไบเดน เพื่อลงนามเป็นกฎหมาย และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน

2.ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีเหตุผล และรู้สึกพอใจต่อสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง

3.นายกฯ ระบุยังไม่มีการปรับ ครม. โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.คลัง ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีคนนอกเข้ามารับตำแหน่งนี้ ส่วนโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลตได้มอบหมายให้ รมช.คลังชี้แจงถึงการกำหนดระยะเวลาของโครงการอีกครั้ง

4.คลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการการเงินให้ธนาคารรัฐลดและตรึงดอกเบี้ย แบ่งเบาค่าครองชีพประชาชน ส่งสัญญาณธนาคารพาณิชย์ต้องลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าด้วย คาดหวังประชุม กนง. 10 เม.ย.นี้ จะลดดอกเบี้ยนโยบาย ประคองเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

5.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงยุทธศาสตร์เอไอ ปรับปรุงองค์คณะ ตั้งบอร์ดเอไอแห่งชาติ เสริมเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมผลักดันกฎหมายเอไอฉบับแรก คุมจริยธรรม ดึงเม็ดเงินลงทุนมุ่งสู่ฮับของอาเซียน

6.วันนี้เป็นวันแรกที่ ตลท.เริ่มขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที ทั้งในตลาด SET และ mai รวมทั้ง TFEX โดยช่วง Pre-open จะเป็น 13.30-14.00 น. จากเดิม 14.00-14.30 น และช่วง Trading เป็น 14.00-16.30 น. จากเดิม 1430-16.30 น.

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวในภาคการผลิตและการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลบวกให้ดัชนีภาคอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากเดือน ม.ค.ที่ปรับตัวลดลง 2.9% YOY ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้เป็นไปตามตลาดคาด ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักดังนี้

1.หุ้นเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทะลุ 85 เหรียญ/บาร์เรล จากกังวลเศรษฐกิจถดถอยลดลงหนุนอุปสงค์ ด้านอุปทานได้ผลบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเทรดดิ้ง PTTEP (ราคาน้ำมันระยะยาวเพิ่มทุก 1 เหรียญ บวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น) และ TOP (ค่าการกลั่นและกำไรสต๊อก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)

2.หุ้นเก็งกำไรจากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มกำลังจะปรับตัวลง เลือกกลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR) กลุ่มสาธารณูปโภค (GULF) กลุ่มขนส่ง (AOT)

3.หุ้นเก็งกำไรเชิงเทคนิคหลังราคาหุ้น Breakout Downtrend และเริ่มเห็น NVDR พลิกกลับมา Net Buy ในเดือน มี.ค. เลือก IVL, GULF, PTTGC, GPSC