ไทยสมุทร สินทรัพย์แสนล้าน เทียบกลุ่มชั้น Teir 1 กำไร 1.1 พันล้าน ตั้งเป้าเบี้ยโต 5-10%

ไทยสมุทรประกันชีวิต สินทรัพย์แสนล้านครั้งแรก ขยับเทียบชั้นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตระดับ Teir 1 ปิดปี’66 กวาดกำไรสุทธิ 1.1 พันล้าน ROI ยืนหนึ่งผลตอบแทน 4.90% ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปี’67 เติบโต 5-10% เน้นโตยั่งยืน หากเจอเบี้ยจุดไหนขาดทุนยอมตัดทันที พร้อมบังคับใช้ TFRS17 ยึดใช้กลยุทธ์ปีนี้ “HEALTHIVERSE”

วันที่ 29 มีนาคม 2567 นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต (Ocean Life) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 14,983 ล้านบาท มาจากเบี้ยรับปีแรกจำนวน 1,973 ล้านบาท และเบี้ยปีต่ออายุ 12,450 ล้านบาท โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 87% ด้วยแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

และนโยบายการลงทุนที่รอบคอบรัดกุมทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,184 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 8.03% และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อยู่ที่ 4.90% สูงเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม

โดยมีสินทรัพย์รวมแตะระดับ 100,622 ล้านบาท ขยับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มบริษัทประกันชีวิตระดับ Teir 1 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พอร์ตสินทรัพย์รวมแตะระดับแสนล้าน จากปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 98,167 ล้านบาท โดยมีเงินสำรองประกันชีวิต 80,072 ล้านบาท และมีอัตราความเพียงพอของเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) อยู่ที่ 361.54% สูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ 120%

นางนุสรากล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายในปี 2567 ไทยสมุทรฯตั้งเป้าเบี้ยรับรวมจะมีอัตราการเติบโต 5-10% ซึ่งต้องเติบโตอย่างยั่งยืน โดยหากเจอว่าเบี้ยตรงจุดไหนที่ขาดทุนและจะขาดทุนต่อเนื่องจะยอมตัดทันที โดยจะไม่มองแต่ TOP LINE ซึ่งจริง ๆ ในหลายปีไทยสมุทรฯไม่ได้เติบโตมาก แต่ฐานะทางการเงินของบริษัทมั่นคง ระดับ CAR ยืนเป็นเบอร์ 1-2 ของอุตสาหกรรมมาโดยตลอด ประกอบกับขนาดบริษัทประมาณ 90,000-100,000 ล้านบาท ไม่ง่ายที่จะรักษาระดับ CAR ในระดับนี้ได้ รวมทั้งมีผลกำไรและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่อง

“เราไม่เคยเจอปัญหาอะไรเลย ตอนนี้ที่จะบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS17 ก็จะผ่านไปด้วยดี เนื่องจากเรามีการวางแผนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย” นางนุสรากล่าว

ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาบริษัทประกันชีวิตตั้งเป้าพยายามลดการขายสินค้าประกันสะสมทรัพย์หรือสินค้าอ่อนไหวกับดอกเบี้ย (Interest Sensitive Product) แต่เนื่องจากช่วง 2 ปีที่แล้วอัตราดอกเบี้ยเด้งขึ้นไปสูงมาก 5% จากที่อยู่ในระดับต่ำมานานมาก หลายบริษัทประกันชีวิตแม้กระทั่งบริษัทที่ไม่เคยขายประกันสะสมทรัพย์ก็ตัดสินใจมาขายสินค้าสะสมทรัพย์ และเช่นเดียวกันผู้บริโภคมีความต้องการ

โดยไทยสมุทรฯเองก็ยอมกลับมาขายสินค้าสะสมทรัพย์ กรณีชอร์ตเทอมจะขายแบบลิมิตวอลุ่ม และพยายามบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน (Asset and Liability Management : ALM) พูดง่าย ๆ คือต้องสามารถหาการลงทุนที่จะแมตช์กับสินค้าที่ขายออกไปได้ เพราะฉะนั้นจะเห็นการเติบโตของตลาดมาจากปัจจัยเหล่านี้ เพราะถ้าบริษัทไหนเลี่ยงไม่ขายเลยก็คงไม่ได้ จะขายน้อยก็ทำให้ขนาดเบี้ยคงเล็ก เพราะว่าพอหันไปขายสินค้าคุ้มครองชีวิต (Protection) ไซซ์มักจะเล็กกว่าการออมหลายเท่า

“เรามีจุดแข็งเรื่องการลงทุน จึงเป็นบริษัทที่อาจจะกล้าขายสินค้าพวกนี้ แต่ก็ต้องระวังโดยบอกกับทีมเสมอว่า ไม่ใช่เราขายแล้วจะมั่นใจในกำไร จริงอยู่ถึงวันที่กรมธรรม์ครบกำหนดเราคงกำไรแน่ ๆ ถ้าเราทำ ALM ได้ดี แต่เราต้องแน่ใจว่าเรามีเงินกองทุนเพียงพอที่รองรับความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยที่สวิงไปมา รวมทั้ง Credit Loss ต่าง ๆ เราก็จะทำการ Stress Test อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราลงทุนแบบนี้และขายสินค้าเหล่านี้ไปแล้วจำนวนมากเท่านี้ จะมีผลกับเราอย่างไร” นางนุสรากล่าว

โดยปัจจุบันพอร์ตสินค้าของไทยสมุทรฯ สัดส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้าประกันสะสมทรัพย์ และมีพอร์ตสัญญาเพิ่มเติม (ประกันสุขภาพ, โรคร้ายแรง, อุบัติเหตุ) ประมาณ 9% ซึ่งเติบโตขึ้นมาค่อนข้างมาก ใกล้เคียงกับแผนเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่ตั้งเป้าให้พอร์ตขึ้นไปแตะระดับ 10% ทั้งนี้ตั้งเป้าอยากจะผลักดันพอร์ตนี้ขึ้นไปแตะระดับ 20% ในระยะข้างหน้า ซึ่งต้องไปพร้อมกับการบริหารความเสี่ยงที่ดี โดยต้องโตอย่างมีคุณภาพการขายที่ดีด้วย โดยที่ปรึกษาประกันชีวิตต้องทำหน้าที่เป็นคนที่พิจารณารับประกันเบี้องต้นให้กับบริษัท

นางนุสรากล่าวอีกว่า ในปีนี้ไทยสมุทรฯจะเน้นใช้กลยุทธ์ “HEALTHIVERSE สู่โลกใหม่ เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย” โดยนำศักยภาพในเรื่องสุขภาพทั้ง 8 ด้าน มาช่วยให้คนไทยเข้าใจการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ป่วย อายุยืนแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน ด้วยแนวคิด LOVE’s Evolution into the NEW ERA รักคือพลังก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ ประกอบด้วย

1.LOVE YOUR HEALTH for HEALTHIVERSE โลกใหม่ที่ทุกคนรักและดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี “เราจะไม่ป่วย” ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ในมิติต่าง ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

2.LOVE YOUR WEALTH for WEALTHIVERSE โลกใหม่ที่ทุกคนรู้จักวางแผนการเงิน ปิดความเสี่ยงในชีวิต โดยส่งเสริมให้ทุกคนมีความรู้พื้นฐานสำคัญด้านการเงิน ใช้เงินให้เป็น มีเงินออม มีทางเลือกการลงทุน เพิ่มความมั่งคั่ง และปิดความเสี่ยงด้วยประกันชีวิต

3.LOVE THE WORLD for HAPPiVERSE รักษาโลกอย่างยั่งยืน ให้คนรุ่นหลังมีความสุข สนับสนุนการสร้างความยั่งยืนทุกด้านตามแนวทาง ESG และ SDGs ทั้งในด้านปลูกฝัง Mindset และมุ่งทำให้เกิดขึ้นจริง

โดยตลอดปีนี้ ไทยสมุทรฯจะใช้พลังความรักรับมือโลกยุคใหม่ด้วยโครงการแคมเปญ กิจกรรม และสื่อต่าง ๆ ผ่านแนวคิด HEALTHIVERSE เพื่อให้คนไทย TOP FORM ไม่ป่วย ช่วยคนไทยด้วยศักยภาพทั้งหมดที่มี และได้เกิดเป็น NEW ERA ในมิติต่าง ๆ

โดยได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “Supreme Health” ยกระดับประกันสุขภาพคุ้มครอง 100 ล้านบาท ในวาระครบรอบ 75 ปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ยกระดับประกันสุขภาพ เปิดแคมเปญโฆษณาใหม่ล่าสุด ชวนคนไทยมา TOP FORM ไปกับ “โอ้” มาริโอ้ เมาเร่อ กับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายระดับพรีเมี่ยม ที่ดีที่สุดของเรา โอเชี่ยนไลฟ์ ซูพรีม เฮลท์ (OCEAN LIEF SUPREME HEALTH) ที่คุ้มครองการรักษาสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ตอบโจทย์การรักษาพยาบาลในทุกมิติ

ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย พร้อมนวัตกรรมและบริการมากมาย จากพันธมิตรและโรงพยาบาลชั้นนำ อีกทั้งยังมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่างเหนือระดับ ในทุกที่ ทุกเวลา เพื่อปิด Gap ด้านสุขภาพให้ทุกคน TOP FORM

แต่เนื่องในสภาพแวดล้อมปัจจุบันโรคร้ายแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง จะดีกว่าไหมถ้ามีตัวช่วยมาปิดความเสี่ยงเรื่องโรคร้ายแรงที่มีสถิติเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้สร้างสรรค์แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ดีที่สุด และคุ้มครองโรคร้ายแรงได้มากที่สุดของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร กับสัญญาเพิ่มเติม โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 (CI120) คุ้มครอง 6 กลุ่มโรคร้ายแรงและกลุ่มความคุ้มครองพิเศษของโรคมะเร็งระยะลุกลาม

รวมสูงสุดถึง 120 โรคร้ายแรง ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย นอกจากนี้ วิกฤตที่ผ่านมายังทำให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ และความไม่แน่นอนของชีวิต

OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงได้นำเสนอประกันสุขภาพ โอชิ สมอล เฮลท์ ประกันสุขภาพไซซ์เล็ก (OCHI SMALL HEALTH) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยเบี้ยประกันที่จับต้องได้ เริ่มต้นแค่วันละ 13 บาท ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 1,000 บาทต่อครั้ง

พร้อมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) เหมาจ่ายตามจริงสูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง อีกทั้งยังสามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ (Telepharmacy) และรับยาจากร้านยาเครือข่ายใกล้บ้านได้อีกด้วย