นายแบงก์ใหญ่หวั่นฟินเทคแย่งธุรกิจแบงก์ เผยกระทบรายได้

นายแบงก์ใหญ่หวั่นฟินเทคแย่งธุรกิจแบงก์ เผยกระทบรายได้ ชี้อนาคตแบงก์ชาติยังจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจไทย คาดอาจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง

งาน BOT Symposium 2018 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเวทีเสาวนา The Future of Money ,Finance and Central

โดยนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน นอกจากธนาคารพาณิชย์ ยังมีผู้ประกอบการฟินเทคที่เข้ามามีส่วนในธุรกิจต่างๆ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ เนื่องจากฟินเทคจะมาดึงส่วนที่สามารถสร้างกำไรได้ไป โดยที่ผ่านมาจะเห็นการปรับตัวในรูปแบบต่างๆของธนาคารพาณิชย์ เช่น ทำให้ต้นทุนธนาคารลดลง ทำกระบวนการให้สั้นและถูกเทียบเท่าผู้เล่นหน้าใหม่ นอกจากนี้ในภาวะความผันผวนในปัจจุบันทำให้ธนาคารพาณิชย์ได้ดำเนินการเกี่ยวกับโครงสร้างในการประกอบธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งอีกด้วย

“ทุกคนดึงส่วนของธนาคารพาณิชย์ไปทำหมด ธนาคารก็ต้องหาทางทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด ในอนาคตถ้ามีฟินเทคหรือผู้ประกอบอื่นเข้ามาแย่งธุรกิจที่ธนาคารพาณิชย์ทำ ธนาคารพาณิชย์อาจจะถูกเปลี่ยนชื่อ ธนาคารที่ทำหน้าที่รับฝากเงิน คนอื่นก็เอาชื่อธนาคารไปได้ แต่เชื่อว่าหน้าที่หลักของธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ การชำระเงิน การจัดสรรทรัพยากร การบริหารความเสี่ยง และการกระจายความมั่งคั่งยังคงอยู่ แต่อยู่ที่จะถูกทำโดยคนที่เกิดขึ้นมาใหม่หรือไม่ ทำให้ทุกธนาคารพยายามสร้างแพลตฟอร์มและเก็บฐานข้อมูลมากขึ้น เพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆในการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น ปล่อยสินเชื่อ เพราะถ้าธนาคารพาณิชย์มองวิธีเก่าๆในการให้สินเชื่อหรือบริหารความเสี่ยง น่าจะอยู่ไม่รอด” นายปรีดีกล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอนาคตธนาคารกลางยังมีความจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งอาจจะต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ในโลกที่ต้องเจอกับความผันผวน จึงเป็นเรื่องยากในการวางแผน ซึ่งทุกคนต้องมีความยืดหยุ่นในการเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งในส่วนของการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางการอาจจะให้ได้ผลยากขึ้นและการควบคุมเสถียรภาพระบบก็ยากเช่นกัน เพราะ 2 ใน 3 อยู่นอกอำนาจธนาคารกลางแล้ว ธนาคารกลางจึงจะต้องปรับตัวหรือปรับแนวคิดเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามได้แสดงความเห็นว่าการที่ยิ่งกลัวกับความเปลี่ยนแปลง ในที่สุดอาจจะกลายเป็นความคิดอยู่แค่ในกรอบได้