ธนาคารกรุงเทพเร่งสกัดเอ็นพีแอล ปี’62 ห่วงส่งออก-รากหญ้าเฉา

แบงก์กรุงเทพเร่งสกัดเอ็นพีแอล ปีหน้าคุมไม่ให้เพิ่มมากจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.6% หวั่นบั่นทอนธุรกิจ จับตาภาคส่งออกแข่งราคาไม่ไหว ห่วงรากหญ้าปีหน้าเฉา เหตุกำลังซื้อยังไม่ฟื้น ทำนายปี”62 เศรษฐกิจไทยโต 4.2% หวังเลือกตั้งเร็ว-โปร่งใสดึงนักลงทุน

นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารอยู่ที่ 3.6% โดยปีหน้าก็จะพยายามรักษาระดับไม่ให้เพิ่มขึ้นมาก เพราะจะทำให้ธนาคารไม่แข็งแรง และบั่นทอนการดำเนินธุรกิจ โดยยอมรับว่ากังวลภาคส่งออก จากแนวโน้มราคาสินค้าที่แพงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น อย่างเช่น ข้าวหอมมะลิที่ราคาแพงขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ดี ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) อยู่ที่ 161% และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อธนาคารมีกำไรเพิ่มขึ้น ก็จะเพิ่มการตั้งสำรองให้มากขึ้นตาม เพื่อความปลอดภัยต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และรองรับเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) ในอนาคต

นายเดชากล่าวอีกว่า ตอนนี้เศรษฐกิจรากหญ้าน่าเป็นห่วง เพราะกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในต่างจังหวัดที่เงียบเหงา ซึ่งกลัวว่าจะลามไปในปีหน้า โดยเศรษฐกิจไทยในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตแค่ 4.2% ต่ำกว่าปีนี้ เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวเพราะสงครามการค้าที่อาจก่อให้เกิดข้อจำกัดทางด้านภาษีของสินค้าไทย แต่เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะมีแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ และการเลือกตั้งที่หากเกิดขึ้นเร็วและโปร่งใส จะทำให้นักลงทุนต่างชาติกล้าเข้ามาลงทุนมากขึ้น

สำหรับสินเชื่อรวมของธนาคาร คาดว่าปี 2561 จะเติบโตที่ 3-5% โดยสินเชื่อในประเทศหลัก ๆ จะเติบโตมาจากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะที่ปี 2562 สินเชื่อของธนาคารจะเติบโตมากขึ้นอยู่ที่ราว 5% จากสินเชื่อต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย เมียนมา เวียดนาม และลาว ที่มีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ

ด้านมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะออกมานั้น นายเดชากล่าวว่า กระทบธนาคารไม่มาก เพราะมีการคัดกรองและควบคุมการปล่อยกู้ที่เข้มข้น