ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (25 พ.ย.) ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.15- 30.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 29.85 – 30.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเด่นที่สุดจะเป็นการรายงานจีดีพีไตรมาสที่สามคาดว่าจะขยายตัว 2.0% จากไตรมาสก่อน (ปรับเป็นรายปี) หลังจากที่การรายงานครั้งก่อนชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ 1.9% ในไตรมาสที่ผ่านมา จากแรงหนุนของการบริโภคภาคเอกชน
- กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมกทม.และปริมณฑล
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
- ผู้บริหารหญิง บริษัทโลจิสติกส์ใหญ่ ตกคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิต
ขณะเดียวกันในวันพุธ (27 พ.ย.) ก็จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (US Core PCE) ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่ธนาคารกลางสหรัฐใช้ในการพิจารณานโยบายดอกเบี้ย คาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนตุลาคมจะขยายตัวได้ 1.7% เป็นการเน้นย้ำว่าดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ฝั่งตลาดทุน เรื่องที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นความเคลื่อนไหวของสงครามการค้า ขณะที่ตลาดจะพักประเด็นการถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากเป็นช่วงที่หยุดสภา เป็นบวกกับดอลลาร์ระยะสั้น
โดยตลาดจะกลับไปจับตาเงินปอนด์ ที่มีโอกาสผันผวนสูงหลังทราบนโยบายหาเสียงของผู้สมัครเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาค่าเงินหยวน ที่มีโอกาสอ่อนค่าถ้าสงครามการค้าและความวุ่นวายในฮ่องกงยังคงยืดเยื้อ
“ด้านเงินบาท ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าสัปดาห์นี้ตลาดก็จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นกัน อย่างไรก็ดี ต้องระวังว่าเงินบาทเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย ถ้ามีปัจจัยใหม่ที่อาจกลับเข้ามาในตลาดไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หรือถ้าสหรัฐและจีนสามารถหาข้อตกลงทางการค้ากันได้เร็ว เชื่อว่าตลาดจะขายทำกำไรเงินบาทเพื่อย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ” ดร.จิติพลกล่าว