LINE BK ฮอต! ยอดสมัครสินเชื่อ 6-7 พันรายต่อวัน ลั่นปี’64 ชิงตลาดนาโนฯ

ธนา โพธิกำจร ซีอีโอบริษัท กสิกรไลน์

LINE BK ปลื้มคนแห่สมัครขอสินเชื่อ 6-7 พันรายต่อวัน สมัครใช้บริการอีกหลักหมื่นราย เผย ช่วงแรกอาจจะอนุมัติช้า เหตุยังต้องขอเอกสารเงินเดือนตามเกณฑ์ธปท. ชี้ช่วงเศรษฐกิจชะลอเห็นยอดอนุมัติต่ำ 20% ลั่นต้นปี 64 เร่งพัฒนาระบบประเมินรายได้-ดึงไลเซ่นส์นาโนไฟแนนซ์ปล่อยกู้สะดวก-อนุมัติเร็วขึ้น ย้ำ ปีแรกขอโกยฐานลูกค้า 1 ล้านราย พร้อมต่อยอดโปรดักต์ลงทุน-ประกัน

นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกรไลน์ กล่าวว่า ภายหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ “LINE BK” ที่ให้บริการบัญชีเงินฝาก, บริการงินออมดอกพิเศษ, บริการเดบิต และบริการวงเงินให้ยืม (Credit line) เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ได้ผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี โดยมีผู้สนใจสมัคร (App In) ในส่วนของสินเชื่อ (Lending) เข้ามาประมาณ 6,000-7,000 รายต่อวัน และเป็นผู้สมัครใช้ LINE BKอีกหลักหมื่นรายต่อวัน ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้ากสิกรไทย

อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการทำธุรกิจภายใต้ใบอนุญาต (License) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้บริษัทยังต้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากลูกค้า เช่น สเตตเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งเป็นกรอบที่ธปท.กำหนดไว้ ทำให้การอนุมัติสินเชื่อในช่วงแรกค่อนข้างล่าช้า แต่หลังจากบริษัทมีการพัฒนาระบบการประเมินรายได้ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะทำให้ลูกค้าสมัครดีขึ้น และภายในต้นปี 2564 บริษัทจะขยายการปล่อยสินเชื่อไปสู่ใบอนุญาต (Nano Finance) จะทำให้บริษัทไม่ต้องใช้เอกสารในการกู้ยืม และขยายกลุ่มลูกค้าในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ของ LINE BK มองว่าค่าเฉลี่ยการอนุมัติในส่วนของ Digital Lending จะอยู่ไม่เกิน 20% แต่ในช่วงในภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวและไม่ฟื้นตัวอัตราการอนุมัติสินเชื่อจะต่ำลงเหลือเพียงระดับกว่า 10% ซึ่งแตกต่างจากการอนุมัตสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปที่อยู่ระดับเฉลี่ยราว 40% ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มลูกค้าธนาคารและบริษัทคนละกลุ่ม โดยธนาคารจะเน้นกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง-สูงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและเป็นการเดินไปหาลูกค้า ซึ่งในส่วนของบริษัทเป็นลูกค้าเดินเข้ามาสมัคร และส่วนใหญ่ประมาณ 80% เป็นกลุ่มที่ต้องการสินเชื่อ

“ตอนนี้เรายังต้องวิเคราะห์ลูกค้าจากสเตตเมนต์ลูกค้า ทำให้ยอดอนุมัติยังช้าและสะดุด แต่ในอนาคตเราจะพัฒนาการประเมินรายได้ดีขึ้น จะทำให้การอนุมัติทำได้เร็วขึ้นและคล่องตัวขึ้น โดยจะเห็นว่าหากเป็นธนาคารจะวิเคราะห์จากทรานแทกชั่นธุรกรรมการเงินและผลิตภัณฑ์ของลูกค้า และในส่วนของ LINE จะใช้จากพฤติกรรม TV,Payment,News,Sticker, ส่วนช่องทาง Traditional จะดูจาก NCB เป็นหลัก”

นายธนา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการดูแลบริหารจัดการความเสี่ยงภายหลังจากการปล่อยสินเชื่อ บริษัทยังคงใช้การติดตามด้วยตัวเอง โดยใช้ทรัพยากรของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นวิธีการปกติ ขณะที่ในส่วนของ LINE อาจจะเป็นการส่งไลน์เตือนลูกค้าเท่านั้น อย่างไรก็ดี หากลูกค้าค้างชำระเกิน 30 วัน บริษัทจะใช้วิธีการจ้างบริษัทภายนอก (OA) ในการติดตามแทน 2-3 เจ้า

นายธนากล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากการปล่อยสินเชื่อในช่วงแรกอาจจะค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องสู้เพื่อขยายฐานลูกค้า แต่ในระยะยาวจะต้องควบคุมหนี้ไม่เกิน 5% และจะต้องมีการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 ตามปกติ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะต้องมีฐานลูกค้าประมาณ 1 ล้านราย และภายใน 5 ปี จะต้องเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของกลุ่มธุรกิจรายย่อย (Consumer Finance) ทั้งในแง่รายได้และพอร์ตสินเชื่อ โดยภายหลังจากออกผลิตภัณฑ์เบื้องต้นไปแล้ว ภายในอีก 2 ปี บริษัทจะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ทางด้านการลงทุนและประกัน โดยจะเปิดกว้างไม่ขายเฉพาะของธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น

“เรามองโจทย์ที่ต้องทำให้ไลน์สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีกสิกรไทยได้ และปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางนี้ได้ ซึ่งเมื่อเราสามารถผูกกับไลน์ได้ ก็จะได้ Digital Lending ที่ฉีกออกไป แล้วส่วนของลูกค้ากลุ่มแมส หรือกลุ่มที่ยังเข้าถึงสถาบันการเงินได้น้อยหรือไม่ได้เลย ก็คือจะทำอย่างไรให้สามารถเข้าถึงง่าย และขั้นตอนการใช้งานง่าย เพราะปัจจุบันไทยมีคนเข้าถึงบริการธนาคารเพียง 37% เทียบสิงคโปร์สูง 60% มาเลเซีย 45%

ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ผู้ใช้บริการของธนาคารสามารถใช้บริการของธนาคารได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งไลน์ก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่มาก ทำให้เราตอบสนองลูกค้าเก่า และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ด้วย”

สำหรับ ผลิตภัณฑ์ LINE BK ครอบคลุมบริการโอน ถอน จ่าย ทำทุกอย่างได้บน LINE ไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน ไม่ต้องจำเลขบัญชี ,บริการบัญชีเงินออมดอกพิเศษ (Powered by KBank) : บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดถึง 1.5% ต่อปี และสามารถกำหนดระยะเวลาออมเงินได้เอง ทั้งแบบระยะสั้น 6 เดือน หรือระยะยาว 12 เดือน , บริการบัตรเดบิต (Powered by KBank)

บัตรเดบิตวีซ่า LINE BK ให้เงินคืน 0.5% เมื่อช้อปออนไลน์ 100 บาทขึ้นไป โดยมีบัตรให้เลือกถึง 3 ประเภท เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง บัตรเดบิต (Debit Card) ที่มาพร้อมลายคาแรคเตอร์น่ารักสดใส จาก LINE ทั้งบราวน์ โคนี และ แซลลี บัตรเดบิตออนไลน์ (Online Debit Card) ที่สามารถสมัครและใช้งานได้ทันทีบนแอปพลิเคชัน LINE และ บัตรเดบิตคู่วงเงิน (Debit Card with Credit Line) ที่สามารถแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอ พร้อมให้ดึงเงินจากวงเงินให้ยืมมาใช้จ่ายต่อได้ทันที ไม่มีสะดุด

และบริการวงเงินให้ยืม (Credit Line)บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบดิจิทัล ผู้ใช้บริการสามารถขอวงเงินสินเชื่อได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา อนุมัติไว เบิกเงินเข้าบัญชีได้ทันที โดยผู้มีรายได้ขั้นต่ำแค่ 7 พันบาทก็สามารถขอสินเชื่อได้ ในวงเงินไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 800,000 แสนบาท ในอัตราดอกเบี้ย 18-25% ตามความเสี่ยง