สินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาแข็งค่า หลังสถานการณ์โควิดยังไม่แน่นอน

เงินบาท-ดอลลาร์

สินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาแข็งค่า หลังสถานการณ์โควิดยังไม่แน่นอน การพัฒนาวัคซีนยังไม่สำเร็จ 100 % นักลงทุนยังคงลงทุนอย่างระมัดระวังโดยการเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น ขณะที่เงินบาทแนวดน้มยังแข็งค่า

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/11) ที่ระดับ 30.25/27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (11/11) ที่ระดับ 30.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงคืนที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงกลับเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่นักลงทุนยังคงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐที่ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น แม้ว่าจะมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ก็ยังไม่สำเร็จ 100% ทำให้นักลงทุนยังคงลงทุนอย่างระมัดระวังโดยการเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น

ทั้งนี้เมื่อวาน (11/11) เป็นวันหยุดของสหรัฐ เนื่องในวันทหารผ่านศึกของสหรัฐ ทำให้คืนที่ผ่านมาตลาดมีปริมาณซื้อขายไม่มากนัก

ในส่วนของค่าเงินบาทปรับตัวอยู่ในกรอบ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมามีการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในเดือนตุลาคมออกมาที่ระดับ 50.9 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ระดับ 50.2 เล็กน้อย

อย่างไรก็ดี บาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 และเงินทุนไหลเข้าในระยะสั้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.19-30.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลดที่ระดับ 30.23/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/11) ที่ระดับ 1.1780/82 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/11) ที่ระดับ 1.1795/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร นอกจากการอ่อนค่าตามการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐแล้ว ค่าเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศสมาชิกจนทำให้บางประเทศต้องประกาศใช้มาตรการปิดเมืองอีกครั้ง และสภาผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจของเยอรมนี (GCEE) ออกรายงานคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะหดตัวลง 5.1% ในปีนี้

นอกจากนี้เมื่อคืน (11/11) นางคริสติน ลาการ์ด ประธานาธิบดีธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมากล่าวว่าทาง ECB จะใช้มาตรการซื้อพันธบัตรและส่งสัญญาณว่า จะใช้มาตรการทางการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1757-1.1816 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1813/15 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/11) ที่ระดับ 105.28/29 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/11) ที่ระดับ 05.40/42 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนแข็งค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรปที่ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น

เม้ว่าจะมีความคืบหน้าของการคิดค้นยาป้องกันโควิด-19 แต่ตัวยาก็ยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ในตอนนี้ ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 105.13-105.47 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 105.30/32 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สหราชอาณาจักร ไตรมาส 3 (12/11), ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) สหรัฐ เดือนตุลาคม (12/11), จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (12/11), ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐเดือนตุลาคม (13/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 0.75/0.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.9/-0.3 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ