ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 4 เดือน 1.18 แสนล้าน ลุ้นเปิดประเทศดูดเงินลงทุนเพิ่ม

กระดานหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงภาพรวมตลาดหลักทรัพย์เดือนเม.ย..65 ชี้ตลาดหุ้นผันผวนรับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่ยังประคองตัวได้ 4 เดือนแรกปี’65 ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 118,120 ล้านบาท ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,667.44 จุด ปรับลดลง 1.6% จากเดือนมี.ค. ลุ้นเปิดประเทศหนุนเศรษฐกิจฟื้นดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น

วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนเม.ย. เป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก

อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2565 จากที่ประกาศในคราวก่อนหน้า ผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นมากโดยเฉพาะราคาพลังงานและอาหารที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงจนถึงปี 2566

นอกจากนี้ การประกาศล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในจีนตามนโยบาย Zero COVID Policy ทำให้นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และเป็นการซ้ำเติมปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่ธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกถูกกดดันให้ต้องเลือกระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อโดยดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น

กับการรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งกำลังฟื้นตัวหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยนักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Yield) ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทั้งนี้การที่อัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศเกิดสูงต่ำไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดฟันด์โฟลว์ผันผวน และส่งผลกระทบต่ออัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตามในเดือนเม.ย.แม้ตลาดหุ้นไทยจะผันผวนแต่มองว่าผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ โดยยังคงเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยใน 4 เดือนแรกปี 2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 93,245 ล้านบาท

ซึ่งผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศกลับมามีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 43.75% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ตามด้วยผู้ลงทุนต่างประเทศ 41.48% และผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 โดยในเดือนเม.ย. 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 9,780 ล้านบาท ทำให้ใน 4 เดือนแรกปี 2565 (ม.ค.-เม.ย.) ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 118,120 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ยังคงอัตรากำไรต่อหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่เพิ่มขึ้น 10% จากสิ้นปี 2564 ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2565 ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปิดที่ 1,667.44 จุด ปรับลดลง 1.6% จากเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ยังปรับเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่่งเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ดัชนีไม่ติดลบ

นายศรพล กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความสนใจและมีเงินลงทุนทยอยไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง มาจากความคาดหวังเรื่องของนโยบายการเปิดประเทศที่คาดว่าหากเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวเข้ามา กิจกรรมต่าง ๆ กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นจะส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและเมื่อเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดีคาดว่าจะช่วยหนุนให้เงินทุนทยอยให้เข้าเพิ่มขึ้นได้

ขณะที่เงินเฟ้อของไทยยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ รวมถึงมีเซกเตอร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่อิงไปกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ภาคส่งออกของไทยยังทำผลงานอกมาได้ดีมากเป็นประวัติการณ์ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความสนใจและเป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ทยอยไหลเข้าในระยะถัดไปด้วยเช่นกัน

“ทั้งนี้จากประเด็นข่าวที่มีการนำรูปภาพของผู้บริหารไปใช้เพื่อหลอกลวงประชาชนเกี่ยวกับการลงทุน ฝากนักลงทุนอย่าหลงเชื่อ หากมีคำถามสามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อป้องกันการถูกหลอก” นายศรพลกล่าว