ดอลลาร์เคลื่อนไหวแคบ เนื่องในวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2560 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (25/12) ที่ 32.72/74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (22/4) ที่ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูประบบภาษีด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง และวุฒิสภาลงมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22/12) ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามรับรองเพื่อบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค.ปีหน้า นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือน พ.ย. ปรับตัวลดลง 0.1% แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.72-32.77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ข้อมูลการค้าเดือนพฤศจิกายนบ่งชี้ว่า ยอดส่งออกไทยขยายตัวสูงถึง 13.4% เมื่อเทียบรายปี ส่วนการนำเข้ายังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในอัตรา 13.7% สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใส สอดคล้องกับการประเมินของ กนง.ในเรื่องความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจว่าสมดุลมากขึ้น โดย กนง.ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP ของไทยในปี 2560 และ 2561 เป็น 3.9% จากเดิมที่ 3.8% ด้วยปัจจัยหนุนจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ส่วนการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวอย่างช้า ๆ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ในระยะถัดไปหากภาครัฐเบิกจ่ายลงทุนได้ตามแผน จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมเช่นกัน นอกจากนี้ กนง.เห็นว่าค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค ท่าทีดังกล่าวทำให้เรายังคงมุมมองที่ว่ามีโอกาสที่ทางการจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายก่อนสิ้นปี 2561 หากแรงส่งเชิงบวกของเศรษฐกิจยังมีต่อเนื่อง ส่วนเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีนี้เนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอาจลดลงหลังความต้องการนำเข้าฟื้นตัว อีกทั้งบัญชีเงินทุนมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (25/12) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1847/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ใกล้เคียงระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (22/12) ที่ระดับ 1.1846/49 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22/12) พรรคการเมืองที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสเปนจะกลับมาเผชิญวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของยุโรปด้วย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1841-1.1880 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1874/78 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนในวันนี้ (25/12) เปิดตลาดที่ระดับ 113.28/30 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (22/12) ที่ระดับ 113.34/36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยในวันนี้ (25/12) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีกำหนดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือน ธ.ค. หลังจากคณะกรรมการ BOJ มีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ให้คงนโยบายการเงินเชิงรุกต่อไป ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% พร้อมกับประกาศเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระยะยาว ให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 0% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 113.20-113.35 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 113.28/31 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่น (25/12) อัตราการว่างงานของญี่ปุ่น (25/12) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ (27/12) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ (27/12) ตัวเลขยอดค้าปลีกของญี่ปุ่น (27/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -5.5/4.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -6.0/-5.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ