SCB EIC ชี้ทางปีจอสดใส เศรษฐกิจไทยฟรุ้งฟริ้ง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ(อีไอซี)ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดโผคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 ชี้เศรษฐกิจไทยเติบโตตอ่เนื่อง จีดีพี 4% ผลดีจากการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนเอกชนและการลงทุนภาครัฐ เรื่องการเลือกตั้งไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ(อีไอซี)ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปี 2561 คาดการณ์จีดีพีไทยจะเติบโตที่ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือว่าเติบโตต่อเนื่องจากปี 2560 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้การส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยน่าจะเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่จำทำให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อน ได้แก่ การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการลงทุนของภาคเอกชนไทยจะเติบโตตามการขยายตัวการส่งออก โดยปีนี้จะเห็นการลงทุนทั้งขยายการผลิตลงทุนเครื่องจักร และการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในธูรกิจไอทีจะเติบโตมาก โดยทางอีไอซีคาดการณ์ว่าปี 2561 นี้จะมีเม็ดเงินลงทุน 4.2 แสนล้านบาท เติบโต 6% โดยเฉลี่ย นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก

“การลงทุนภาคเอกชนในปีนี้ มีหลายธุรกิจได้แก่ การท่องเที่ยว ส่งออก ทั่งโรงแรม ร้านอาหาร ช็อปปิ้งที่ขยายไปต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนกลุ่มที่ต้องระวังน่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่ต้องสู้กับร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ และอีคอมเมิรซ์มากขึ้น อย่างไรก็ตามปี 2561 การลงทุนภาคเอกชนน่าจะเติบโตที่ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ”

อย่างไรก็ตามด้านการรลงทุนภาครัฐปี 2561 คาดว่ามีเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานถึง 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2560 ที่อยู่ระดับ 8 หมื่นล้านบาท ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวขึ้น ทั้งนี้ปี 2561 คาดว่าจะมีการลงทุนภาครัฐเติบโต 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

“การเลือกตั้งของไทยในช่วงปลายปี คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับเม็ดเงินที่รัฐลงทุนไปแล้ว และกำลังจะลงทุนต่อเนื่องมากกว่า อย่างโครงสร้างพื้นฐานที่จะลงทุนเพิ่มในปีนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ในด้านปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปีนี้ ได้แก่ ความเสี่ยงในประเทศด้านตลาดแรงงาน ที่การจ้างงานและค่าจ้างแรงงานทรงตัวไม่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อเนื่องให้กำลังซื้อในประเทศไม่เติบโต เพราะคนชะลอการใช้จ่าย ปัญหาแรงานขาดแคลน รวมถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก และกดดันรายได้เกษตรกร ส่วนความเสี่ยงจากต่างประเทศคือความไม่สงบทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ด้านค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุหลัก เพราะไทยมีเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งด้านการค้าและเงินที่ไหลเข้าจากการท่องเที่ยว กว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)น่าจะมีมาตรการเพื่อสนับสนุนให้คนไทยลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น