ศาลปกครองสูงสุดยกคำขอทุเลาการบังคับตามกฎกระทรวงที่กำหนดให้ติดตั้งเครื่องสื่อสารในรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน7คน

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกคำขอให้ทุเลาการบังคับตามกฎกระทรวง ที่กำหนดให้มีเครื่องสื่อสาร เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางและอุปกรณ์อื่นๆ ในรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน

ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟร. ๑๔ – ๑๕/๒๕๖๐ ซึ่งเป็นคดีที่ นายสมบุญ จรรยาเลิศ และนายวรพล หรือ ธารินทร์ แกมขุนทด ฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอให้เพิกถอนกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน พ.ศ. ๒๕๖๐ และมีคำขอให้ทุเลาการบังคับตามกฎดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว

โดยศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า กฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน พ.ศ. ๒๕๖๐ กำหนดให้รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ต้องมีมาตรค่าโดยสาร เครื่องสื่อสาร เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง อุปกรณ์กั้นระหว่างที่นั่งผู้ขับรถกับคนโดยสาร อุปกรณ์ที่ใช้บันทึกภาพภายในหรือภายนอกและอุปกรณ์อื่นอันจำเป็นเพื่อความปลอดภัย การตรากฎกระทรวงดังกล่าวได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีในการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับลักษณะขนาดหรือกำลังของเครื่องยนต์เครื่องอุปกรณ์ต่างๆ โดยมีเหตุผลว่าเพื่อยกระดับมาตรฐานในการให้บริการแก่ประชาชนและมาตรฐานความปลอดภัยให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวไม่ได้มีผลใช้บังคับในทันที อันเป็นกรณีที่กำหนดให้ผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎกระทรวงได้ทราบล่วงหน้าและมีเวลาเตรียมการเพื่อไม่ให้เกิดภาระเกินสมควร

อีกทั้งกฎกระทรวงดังกล่าวไม่ได้มีสภาพบังคับในตัวเองไปเสียทั้งหมดในทันที โดยกรมการขนส่ง
ทางบกจะต้องออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องเท่าที่เหมาะสมแก่สภาวการณ์เท่านั้น ซึ่งข้อพิพาทในส่วนที่กรมการขนส่งทางบกจะต้องตรวจสอบการติดตั้งและการใช้งานของเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นข้อพิพาทที่แยกต่างหากจากข้อพิพาทในคดีนี้ กฎกระทรวงดังกล่าว
จึงไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจึงไม่อาจมีคำสั่งทุเลาการบังคับได้

ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามกฎกระทรวงของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง