กรมควบคุมโรคคาดปีนี้ ฝุ่นพิษแรงขึ้น แนะงดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งสัปดาห์

ฝุ่นพิษ

กรมควบคุมโรคคาดปี 2566 ฝุ่นพิษแรงขึ้น แนะงดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งสัปดาห์

วันที่ 30 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ ประจำสัปดาห์ที่ 5 ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค

พบว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2563 ถึง มกราคม 2566 มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) มักเกิดในช่วงรอยต่อฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม คาดว่าอากาศไม่ยกตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างอ่อน/ไม่ดี และอากาศปิดกับมีฝนบางพื้นที่

ส่งผลให้การสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 ยังทรงตัว และจากข้อมูลของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ วันที่ 26 มกราคม 2566 พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน พบในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) การคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นละอองในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2566 สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน จะรุนแรงกว่าปี 2565 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคเหนือ

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคเหนือ อาจเกิดภัยสุขภาพที่ประชาชนมีโอกาสได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ได้แก่

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจขาดเลือด ตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหากมีความจำเป็นให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง

และขอความร่วมมือ งดการเผาในที่โล่งแจ้ง และตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ควรเลี่ยงกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโอกาสสัมผัสฝุ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น ตำรวจจราจร คนขับรถสาธารณะ คนกวาดถนน คนทำงานในที่โล่งแจ้ง เป็นต้น สำหรับผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ

1.กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด

2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ

3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ

4.กลุ่มโรคตาอักเสบ ซึ่งหากได้รับฝุ่นเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลต่อสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป ควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น เช่น หน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีแผ่นกรองคาร์บอนทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หรือเมื่อไปในพื้นที่ที่มีระดับฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

โดยติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 จากเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ http://air4thai.pcd.go.th/ หรือผ่านทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศ และปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำ รวมถึงการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม หากมีอาการ ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น ระคายเคืองตา หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์
ภาพจากเว็บไซต์ กรมควบคุมโรค