รมว.ดีอีเอส ร่วมรับฟังการสอบปากคำจ่าสิบโทเขมรัฐ เผยว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือการเลือกตั้ง แต่มีกลุ่มทางการเมืองนำไปใช้ดิสเครดิต
วันที่ 12 เมษายน 2566 จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จ.ส.ท.เขมรัฐ บุญช่วย ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ตามความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ใช้ชื่อบัญชี ‘9near’ ได้โพสต์ขายข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายการจากหน่วยงานรัฐไปเผยแพร่ผ่านบนเว็บไซต์ จะเข้ามอบตัวกับตำรวจไซเบอร์ในวันนี้
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
มติชนรายงานความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ว่าเวลา 10.26 น. นายทหารพระธรรมนูญได้เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อเข้าหารือขั้นตอนการมอบตัวจ่าสิบโทเขมรัฐ บุญช่วย ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.)
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ เพื่อเตรียมนำตัวจ่าสิบโทเขมรัฐเข้ามอบตัว และเข้ารับการสอบปากคำ ซึ่งจ่าสิบโทเขมรัฐยังไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างใด
โดยนายทหารพระธรรมนูญยอมรับว่า ขณะนี้จ่าสิบโทเขมรัฐอยู่ในการควบคุมของทหารแล้ว ส่วนรายละเอียดขอให้ทางโฆษกกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจง ส่วนภรรยาของจ่าสิบโทรายดังกล่าว ที่ถูกออกหมายเรียกก่อนหน้านี้นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เดินทางเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำจ่าสิบโทเขมรัฐด้วย เผยว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือการเลือกตั้ง แต่มีกลุ่มทางการเมืองนำไปใช้ในการดิสเครดิต
เพราะการเลือกตั้งไม่ได้ใช้ระบบดิจิทัล ขณะนี้ทราบว่าผู้ก่อเหตุยังไม่ได้นำข้อมูลไปขายหรือนำไปใช้ เพียงเป็นการนำมาโพสต์เพื่อสร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย และเป็นการกระทำส่วนบุคคลเท่านั้น