รฟม.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไม่มีการเผยแพร่คำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อปี 2563 เกี่ยวกับการอนุญาตให้บริษัท อนันดาฯ ใช้ที่ดินของ รฟม. เป็นทางผ่าน
วันที่ 4 สิงหาคม 2566 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงว่า ตามที่มีสำนักข่าวได้นำเสนอประเด็นที่มีคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อปี 2563 เกี่ยวกับการอนุญาตให้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด (ชื่อเดิม) ใช้ที่ดินของ รฟม. เป็นทางผ่าน โดยที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนนั้น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
“รฟม. ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า สืบเนื่องจากในปี 2557 รฟม.ได้อนุญาตให้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด (ชื่อเดิม) ผ่านที่ดินของ รฟม.บริเวณลานจอดรถสถานีสุขุมวิท โครงการรถไฟฟ้ามหานคร เป็นทางผ่านสู่ถนนอโศกมนตรี
“ต่อมาในปี 2559 และ 2560 ได้มีการฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองเกี่ยวกับทางผ่านบริเวณดังกล่าวรวม 2 คดี ซึ่งขณะที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองนั้น รฟม. ได้รับการประสานงานจากองค์กรอิสระให้ รฟม.หารือเรื่องการอนุญาตให้บริษัท อนันดาฯ ใช้ประโยชน์ในที่ดินของ รฟม.เป็นทางผ่านต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“โดยความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อเรื่องดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมทั้งแจ้งผลการหารือให้ รฟม.ทราบและ รฟม. ได้นำผลการหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าวแจ้งกลับไปยังองค์กรอิสระแล้ว
“ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า รฟม.มิได้มีเจตนาปกปิด หรือเพิกเฉยต่อความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่อย่างใด ประกอบกับคดีความทั้ง 2 คดีข้างต้น ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ซึ่งศาลฯ ยังมิได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ รฟม. ต้องปฏิบัติตามเป็นอย่างไร ดังนั้น รฟม. จึงจำเป็นต้องรอคำพิพากษาของศาลฯ ที่ถึงที่สุดเสียก่อน
“อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคดีเกี่ยวกับทางผ่านดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาแล้ว จำนวน 1 คดี โดยให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างฯ ของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 ฉบับ
“โดยศาลฯ มิได้เพิกถอนประกาศกำหนดประเภทการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของ รฟม. และใบอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของ รฟม. เป็นทางผ่านดังกล่าวแต่อย่างใด”