“บิ๊กโจ๊ก” ยันกู้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดงานเลี้ยง “กำนันนก” ได้แล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล (ภาพ : ศูน์ภาพเครือมติชน)

“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันกู้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดงานเลี้ยง ‘กำนันนก’ ได้แล้ว สภาพสมบูรณ์ เห็นตัวบุคคลชัดทุกเหตุการณ์ เตรียมแจ้งข้อหาลูกน้องกำนันนกอีก 5 ราย ทำลายพยานหลักฐาน

วันที่ 10 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 20.20 น. ที่ผ่านมา ที่ตำรวจภูธรภาค 7 มติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต โดยระบุว่าวันนี้ได้สอบปากคำพยานตลอดทั้งวัน คาดว่าจะสอบพยานเสร็จภายใน 3-4 วันนี้ หลังจากนี้จะเรียกพยานทั้งในเหตุการณ์และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำพยานเรื่อย ๆ

ส่วนการสอบปากคำวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเก่ง ลูกน้องของกำนันนก และนายโบ๊ท ผู้นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้ง ฐานความผิดทำลายหลักฐานไปแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่า มีลูกน้องกำนันนกที่จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานทำลายพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกรวม 5 ราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้ทราบว่ามีทั้งหมด 36 คน มีตำรวจ 26 นาย และพลเรือน 10 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงตอนนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

– กลุ่มที่พาคนเจ็บและผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล
– ตำรวจที่ช่วยทำลายหลักฐานและให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี
– ตำรวจที่ไม่ทำอะไรเลย แล้วหนีกลับ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ต้องมาดูกันว่ามีใครอยู่กลุ่มไหนบ้าง ตอนนี้มีความคืบหน้ามากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี สำหรับประเด็นตำรวจพาคนเจ็บและผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาล ได้รับรายงานว่ามีประมาณ 10 คนด้วยกัน หลังจากนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีมากกว่านี้หรือไม่ แล้วทั้ง 10 คน ช่วยเหลือคนเจ็บและคนเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลจริงหรือไม่ ใครทำหน้าที่อะไรบ้าง ไม่ใช่เหมารวมว่าไปหาที่โรงพยาบาลเพียงอย่างเดียวแล้วจะช่วยทั้งหมด หากพบว่าตำรวจที่ให้การช่วยเหลือจริง ๆ นั้นอาจไม่ถูกดำเนินคดี เพราะการช่วยเหลือถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังระบุอีกว่า หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นใคร ฐานความผิดอะไร ในส่วนประเด็นที่มีคนอ้างตัวว่าเป็นลูกน้องของกำนันนกได้มีการโพสต์ลงในโซเชียลว่าจะมีการรวมตัวกันเพื่อชิงตัวประกัน ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร แต่ยังไม่ถือว่ามีการกระทำความผิด แต่จะมีการเรียกตัวมาปรับทัศนคติและทำความเข้าใจ โดยพบว่ากลุ่มคนที่โพสต์เป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่จะต้องขยายเพิ่มเติมคือ กิ่งก้านสาขาของลูกน้องของกำนันนกทั้งหมด รวมถึงเรื่องการทำธุรกิจต้องรื้อทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการประมูล มีการฮั้วประมูลหรือไม่ และอาจต้องขยายผล หากพบการกระทำผิดจะต้องมีการยึดทรัพย์ทุกรายการ วันนี้ต้องไม่ไปเป็นไม้ค้ำยันให้กับคนไม่ดี

“ต้องมองย้อนไปว่าตำรวจเหล่านี้ถึงขนาดไปดื่มเหล้าและถอดเสื้อ ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ากำนันนกสามารถสั่งให้ถอดเสื้อได้ ถอดเสื้อปลดอาวุธ พฤติกรรมเหล่านี้ต้องเรียนตามตรงว่าตำรวจทั้งหมดที่ทำได้ขนาดนี้มันก็พ้นขีดเส้นความเป็นตำรวจไปแล้ว เพราะฉะนั้นต้องลงโทษให้หมด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง” รอง ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังยืนยันด้วยว่า เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่มีการค้นพบเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานมาว่าสามารถกู้คืนได้อย่างแน่นอน สภาพยังสมบูรณ์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ซึ่งต้องรอเอกสารรายงานมาให้ตนก่อน เพราะตอนนี้มีเพียงการพูดคุยเท่านั้น แต่ระบุได้ว่า เห็นตัวบุคคลในที่เกิดเหตุชัดเจน