“สุริยะ” ผนึกกำลัง คมนาคม-กทม.-ตำรวจ เร่งแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน เพิ่มโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้น
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน พร้อมด้วยนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก และรองโฆษกกระทรวงคมนาคม หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร พลตำรวจตรีธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พันตำรวจเอก สุมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บัญชาการตำรวจทางหลวง รองศาสตราจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ ร่วมหารือ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
นายสุริยะเปิดเผยว่า วันนี้ตนเป็นประธานการประชุมหารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญและมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือส่วยสติกเกอร์ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้นั้น ซึ่งจากข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบ พบว่ามีรถบรรทุกน้ำหนักเกินจริง และมีข้อบกพร่องในโครงสร้างและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย ตนจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมในทุกมิติ สามารถป้องกันปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ผลักดันการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องนำมาปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความมั่นใจ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกมิติ พร้อมกำชับการทำงานทุกขั้นตอน ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปฏิบัติงานด้วยความสุจริต และปราศจากการทุจริต ได้เน้นย้ำว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ได้รวบรวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนเกี่ยวกับสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน และพิจารณาแนวทาง การแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมในทุกมิติอย่างรอบด้าน ดังนี้
1.ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยแก้ไขกฎหมายให้มีโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้น
2.เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยการเพิ่มความถี่ อัตรากำลัง ยานพาหนะ ในการติดตามตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินของตำรวจและกรมทางหลวง
3.นำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน อาทิ การนำเทคโนโลยี AI พร้อมกล้อง CCTV มาช่วยประเมินรถบรรทุกที่มีแนวโน้มบรรทุกน้ำหนักเกิน การบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูล Call Center เรื่องร้องเรียนรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย และพึงพอใจสูงสุด ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ