เบี้ยผู้สูงอายุเดือนมกราคม 2567 การลงทะเบียนรับสิทธิ การเช็กเงินเข้าบัญชี เกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ สวัสดิการและสิทธิที่ผู้สูงอายุควรได้รับ
เบี้ยผู้สูงอายุ เป็นเงินที่ภาครัฐช่วยสนับสนุนรายได้ให้กับผู้สูงอายุ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสิทธิและสวัสดิการที่ผู้สูงอายุชาวไทยทุกคนจะได้รับ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยเบี้ยผู้สูงอายุในปี 2567 รอบเดือนมกราคม จะโอนเข้าบัญชี เดือนนี้จะตรงกับวันที่ 10 มกราคม 2567
ลงทะเบียนรับสิทธิต้องทำอย่างไร
ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม ในปีนั้น ๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายนของทุกปี
ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน-1 ตุลาคม ของปีนั้น ๆ จึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้ โดยเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพถัดจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปี นั่นคือ เดือนตุลาคมของปีนั้น
เกณฑ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ
- มีสัญชาติไทย
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดคุณสมบัติอย่างชัดเจนเรื่องเกณฑ์การชี้วัดรายได้ที่ไม่เพียงพอ ให้ใช้ระเบียบการเบิกจ่ายฉบับเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีการกำหนดคุณสมบัติอย่างชัดเจน
การจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ปี 2567
มกราคม : วันพุธที่ 10 มกราคม 2566
กุมภาพันธ์ : วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
มีนาคม : วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
เมษายน : วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
พฤษภาคม : วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
มิถุนายน : วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
กรกฎาคม : วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
สิงหาคม : วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
กันยายน : วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
ตุลาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
พฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
ธันวาคม : วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
การจ่ายเงิน
ภาครัฐจะโอนเงินผ่านธนาคารที่ผู้สูงอายุแจ้งมาให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน หากวันที่ 10 ของเดือนใดตรงกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะเลื่อนเวลาจ่ายเงิน เป็นก่อนวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ดังนั้นอาจจะได้รับเงินไม่ตรงวันที่ 10 ในแต่ละเดือน ล่าสุดสามารถเช็กเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ทางแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”
การจ่ายเบี้ยยังชีพที่ผู้สูงอายุได้รับตามขั้นบันได
ผู้สูงอายุ 60-69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บาท
ผู้สูงอายุ 70-79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 700 บาท
ผู้สูงอายุ 80-89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 800 บาท
ผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ 1,000 บาท
กรณีผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ
- ต้องไม่เป็นผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. หรือ อบต.) อาทิ เงินบำนาญ เบี้ยหวัด
- รวมถึงเงินอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับเงินเบี้ยยังชีพ เช่น ผู้สูงอายุที่เคยทำงานและได้รับเงินเดือน มีรายได้ประจำ หรือผลตอบแทนอื่น ๆ จากหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หลักฐานการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ
- หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด
ขั้นตอนการยื่นขึ้นทะเบียน
- ประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุทราบสิทธิของตนเอง
- ลงทะเบียนตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนด (ในวันและเวลาราชการ)
- ให้ผู้สูงอายุลงทะเบียนได้ตามแบบรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้วยตนเอง
สถานที่การขึ้นทะเบียน
- จุดบริการ ใน กทม. : สำนักงานเขต 50 เขต
- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) : ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมสำนักงานเขตป้อมปราบ ศัตรูพ่าย กทม.โทร.0-2282-4196
- องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น : อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
การสิ้นสุดการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ตาย
- ขาดคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ข้างต้น
- แจ้งสละสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นหนังสือต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ