อย.ย้ำประกาศ สธ. กำหนดลักษณะเจลล้างมือต้องมีแอลกอฮอล์มากกว่า 70 % เพื่อฆ่าเชื้อโรค

file.Photo by Yuttachai Kongprasert/SOPA Images/LightRocket via Getty Images

อย. ย้ำ ประกาศฯ เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 70 % โดยปริมาตร เพื่อฆ่าเชื้อโรค แจงไม่ได้ห้ามผลิต นำเข้า หรือขายเจลล้างมือแอลกอฮอล์ แต่ผู้ประกอบการผลิต หรือผู้ที่ทำเจลล้างมือใช้เองต้องทำให้มีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 70 % โดยปริมาตร ห้ามน้อยกว่า 70% เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค

นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึง กรณีของเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกหนึ่งในการใช้ทำความสะอาดมือ เพื่อสุขลักษณะที่ดีในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2563 ที่ได้ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ ในวันนี้ (10 มีนาคม 2563) กำหนดให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องสำอางและต้องมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70 % โดยปริมาตร เนื่องจากหากมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่า 70 % โดยปริมาตรจะฆ่าเชื้อโรคไม่ได้ ซึ่งแอลกอฮอล์ที่ผสมในผลิตภัณฑ์จะเป็นเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (Ethyl alcohol หรือ Ethanol) ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ ไอโซโพรพานอล (isopropyl alcohol หรือ isopropanol) เอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือ เอ็น-โพรพานอล (n-propyl alcohol หรือ n-propanol) โดยอาจเป็นเพียงสารเดียวหรือผสมรวมกันอยู่ตั้งแต่ 70% โดยปริมาตรขึ้นไป ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ผ่านการจดแจ้งจาก อย. แล้ว ประชาชนจะมั่นใจได้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร

สำหรับประชาชนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ขอให้ตรวจสอบเลขที่จดแจ้งก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 70 % โดยปริมาตรขึ้นไป ตามที่กฎหมายกำหนด และรักษาสุขอนามัยที่ดีของร่างกาย ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเลขรับจดแจ้งได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์” หรือ Oryor Smart Application หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน อย.1556 ส่วนกรณีที่ประชาชนผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ใช้เองก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ต้องมากกว่า 70 % โดยปริมาตร จึงจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้

นายแพทย์ไพศาลกล่าวในตอนท้ายว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์คือจะต้องใช้ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง โดยควรลูบให้ทั่วฝ่ามือและนิ้วมือ ทิ้งไว้ 20-30 วินาทีจนแอลกอฮอล์แห้ง หากใช้แล้วไม่รอให้แห้งไปหยิบจับสิ่งต่าง ๆ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพลดน้อยลง หากรู้สึกว่าผิวแห้งสามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมได้ และระมัดระวังการเก็บหรือการใช้ อย่าวางเจลใกล้ความร้อนหรือเปลวไฟ เพราะแอลกอฮอล์ติดไฟได้ง่าย อาจเกิดอุบัติเหตุทำให้บาดเจ็บได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากประกาศของกระทรวงสาธารณสุข(ข้อ๑)เขียนไม่ค่อยชัดเจน โดยระบุว่าหากมีแอลกอฮอล์ผสมรวมกันต่ำกว่าร้อยละ70 โดยปริมาตร เป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย ทำให้ประชาชนสับสน เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาจึงต้องออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว