ลุ้นวันนี้ คลายล็อกเฟส 4 ผ่อนผัน 3 กลุ่ม-ยกเลิกเคอร์ฟิว

นายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19. ) จะเป็นประธานการประชุม ศบค. เพื่อพิจารณากิจการหรือกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในระยะที่ 4 โดยจะพิจารณาการผ่อนคลายมาตรการในะยะที่ 4 ในกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หรือ กลุ่มสีแดง โดยจะมีการผ่อนผันใน 3 กลุ่ม ได้แก่

1. โรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา

การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ หน่วยงานในกำกับของรัฐ ให้สามารถเปิดโรงเรียน สถาบันการศึกษาประเภทนานาชาติ สถาบันกวดวิชา และให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานในกำกับของรัฐสามารถจัดการอบรมสัมมนา ในหลักสูตรฝึกอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้นได้ โดยจะมีมาตรการหลักและมาตรการเสริม เช่น การดูแล นักเรียน พื้นที่ อาคาร และการเว้นระยะห่าง เป็นต้น

2. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

  • (ก) การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ไม่รวมสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สามารถจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ภายใต้การควบคุมกำกับของหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยมีมาตรการหลัก 5 ข้อ และแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และมาตรการเสริม เช่น งดกิจกรรมที่มีเสียงดัง และบุฟเฟต์งดตักอาหารส่วนกลางด้วยตนเองในภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน เป็นต้น
  • (ข) สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กรายวัน ศูนย์การเรียนสำหรับเด็กพิเศษ และสถานดูแลผู้สูงอายุรายวัน  สำหรับเด็กเล็กต้องอยู่ในเกณฑ์ 2 ตร.ม.ต่อคน ผู้ดูแลต้องผ่านอบรมหลักสูตรพัฒนาเด็กปฐมวัยและการป้องกันควบคุมโรค เว้นระยะห่างที่นอนอย่างน้อย 1 เมตร เป็นต้น
  • (ค) ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า สถานที่จัดนิทรรศการ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่ราชการเพื่อการประชุม อบรม สัมมนา โดยการประชุม อบรม สัมมนา ให้คิดเกณฑ์ 4 ตร.ม.ต่อคน การจัดเลี้ยง งานอีเว้นท์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา ให้มีระยะนั่ง-ยืน ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และงานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ต้องลดความหนาแน่น ต้องมีระเบียบของผู้เข้าชม โดยมาตรการเสริม ให้งดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการนั่งเว้นที่นั่ง เป็นต้น
  • (ง) ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง กรณีเข้าชมเป็นกลุ่ม ให้แบ่งเป็นกลุ่มเล็ก และให้เข้าชมเป็นรอบ
  • (จ) ขนส่งสาธารณะทุกประเภท รถโดยสารประจำทาง-รถปรับอากาศ รถตู้ ระหว่างจังหวัด รถไฟ เครื่องบิน อาจให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้ 2 ที่นั่งเว้น 1 ที่นั่ง โดยจำกัดจำนวนไม่เกินร้อยละ 70  ของความจุผู้โดยสารตามมาตรฐาน

3. กิจกรรมออกกำลังกาย สุขภาพ หรือสันทนาการ

  • (ก)  กิจการถ่ายภาพยนตร์ และวีดีทัศน์ รายการโทรทัศน์   โดยกองถ่ายทำทุกแผนกไม่เกิน 150 คน มีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน    พร้อมแนะนำพิธีกรที่ใส่ Face Shield ควรสวมหน้ากากผ้า หรือ สามารถใส่หน้ากากผ้าอย่างเดียวจะป้องกันได้ดีกว่า Face Shield ซึ่งสามารถยืนใกล้กัน
  • (ข) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา  ออนเซ็น อบตัว อบสมุนไพรหรืออบไอน้ำแบบรวม เปิดบริการได้แล้ว ยกเว้นกิจการอาบ อบ นวด  พร้อมให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบ คิดเกณฑ์ 5 ตร.ม.ต่อคน
  • (ค)  สวนสนุก สนามเด็กเล่น สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ เปิดบริการได้   โดยสวนน้ำและสระว่ายน้ำสาธารณะ  ใช้เกณฑ์ 8 ตร.ม. ต่อผู้ใช้บริการ 1 คน   โดยอบรมพนักงาน มี  Life  guard ดูแล ตรวจตรา และให้คำแนะนำผู้ใช้บริการ สวนสนุก สนามเด็กเล่น งดให้บริการเครื่องเล่นที่มีผิวสัมผัสมาก  เช่น บ้านบอล
  • (ง)  สนามกีฬาประเภทกลางแจ้ง โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม สถานที่ออกกำลังกาย   ทุกประเภทกีฬาตามกติกาสากล เพื่อการออกกำลังกาย ฝึกซ้อม การเรียนการสอน สามารถเล่นได้ แต่ ไม่อนุญาตให้มีผู้ชมหากมีการจัดการแข่งขันกีฬา และสามารถถ่ายทอดภาพเพื่อชมการแข่งขันได้  โดยไม่มีกิจกรรมอื่นร่วมด้วย  นอกจากนี้ ผู้จัดการแข่งขันกีฬาทุกประเภทต้องลงทะเบียนจัดแข่งขัน ภายใต้การควบคุมกำกับของ กกท.
  • (จ)  สวนสาธารณะ ลานกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกาย ลักษณะเป็นการรวมกลุ่ม เช่น เต้นแอโรบิก  โดยให้จำกัดรวมกลุ่ม คิดเกณฑ์มากกว่า 5 ตร.ม. ต่อคน รวมไม่เกิน 50 คน โดยใช้พื้นที่สวนสาธารณะ  เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจช่วยลดแพร่เชื้อด้วย
  • (ฉ) ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนี้ตี้มอลล์ โรงมหรสพ สวนสนุก อนุญาตให้เล่นได้  จำกัดเวลาเล่นไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน ยกเว้นร้านเกมส์ที่อยู่ภายนอกห้างยังไม่อนุญาต

ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่าการเตรียมผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม ทั้ง3 กลุ่ม ยังเป็นฉบับร่าง ซึ่งทาง ผอ.ศบค. คือท่านนายกฯให้นำมาเรียนให้ทราบก่อน ส่วนรายละเอียดอาจจะมีการปรับเปลี่ยน ยกเลิก หรือ เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับศบค.ชุดใหญ่ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 12 มิถุนายนนี้อีกครั้ง”

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์เห็นชอบให้ยกเลิกการประกาศใช้เคอร์ฟิว เพราะต้องการลดผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้ โดยได้สั่งการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาข้อกฏหมายให้รอบด้าน

“นายกรัฐมนตรีระบุว่า การปลดล็อกเฟส 4 ครั้งนี้เพื่อเป็นการผ่อนคลายเกือบทั้งหมด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพ รองรับการมีวิถีชีวิตใหม่ของประชาชน” รายงานข่าวระบุ