ติดโควิด อยู่ Home Isolation ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ลงทะเบียนทางไหน

โควิด กักตัวที่บ้าน

เปิดวิธี คำแนะนำ ผู้ป่วยโควิด-19 อาการไม่รุนแรง “แยกกัวที่บ้าน” ต้องทำอย่างไร เช็กช่องทางลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษา Home Isolation 

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 2 เข็ม ในประเทศไทยขณะนี้มีถึง 49,496,871 ราย และทยอยรับเข็ม 3 แล้ว 19,255,573 ราย (ข้อมูลวันที่ 22 ก.พ.)  ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงนั้นลดน้อยลง

ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรงจึงอาจไม่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลในระยะสั้น โดยสามารถแยกกักตัวได้ที่บ้าน เพื่อให้โรงพยาบาลได้ใช้เตียงกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกว่า

“ประชาชาติธุรกิจ” แนะนำวิธีการแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเป็นข้อมูลจากกรมการแพทย์ (ฉบับปรับปรุงล่าสุด วันที่ 4 ม.ค. 65)

ใครเข้าระบบกักตัวที่บ้านได้บ้าง

แนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แบบ Home Isolation ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์ ระบุว่า ผู้ที่อยู่ในช่วงระยะที่แพร่เชื้อได้ มีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ป่วยแยกจากคนอื่นในบ้านตามคำแนะนำ ดังนี้

1. ผู้ป่วยที่วินิจฉัยตามเกณฑ์ การวินิจฉัย และ แพทย์เห็นว่า สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้

2. ผู้ป่วยที่ step down หลังเข้ารับการรักษาที่สถานที่รัฐจัดให้หรือ โรงพยาบาล อย่างน้อย 7 วัน และจำหน่ายกลับบ้าน โดยวิธี Home Isolation

กักตัวที่บ้านทำอย่างไร

ผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจด้วย ATK และพบผลการติดเชื้อเป็น “บวก” ให้ทำการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ Home Isolation ตามช่องทางที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แนะนำ ดังนี้

1. โทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 14

2. ลงทะเบียนด้วยตนเอง ที่ลิงก์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI

3. Line สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 

สำหรับช่องทางไลน์ เมื่อกดเพิ่มเพื่อนแล้ว ให้กดเลือกเมนู “บริการเกี่ยวกับโควิด-19” จากนั้นเลือกหัวข้อ “ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation)” และกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม Support COVID-19 ทั้งในส่วนข้อมูลบุคคลและข้อมูลผู้ป่วย COVID-19

เมื่อทำการลงทะเบียนผ่านช่องทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะประสานงานและจับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อรักษาตามระบบการดูแล ภายใน 6 ชั่วโมง และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อประเมินอาการเบื้องต้น หากยังไม่ได้รับการติดต่อภายใน 6 ชั่วโมงให้โทร.แจ้งที่เบอร์ 1330 อีกครั้ง

กักตัวที่บ้าน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

กรมการแพทย์ได้ ระบุ ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยโควิด ในระหว่างแยกกักตัวที่บ้าน และควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้

1. ไม่ให้บุคคลอื่นมาเยี่ยมที่บ้านระหว่างแยกตัวและงดการออกจากบ้านในระหว่างแยกตัว

2. อยู่ในห้องส่วนตัวตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ หากยังมีอาการไอจามต้องสวมหน้ากากอนามัยแม้ขณะที่อยู่ในห้อง ส่วนตัว โดยแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ไม่ให้ใช้หน้ากากผ้า

3. หากจำเป็นต้องเข้าใกล้ผู้อื่นต้องสวมหน้ากากอนามัยและอยู่ห่างอย่างน้อย 1 เมตร หรือประมาณ หนึ่งช่วงแขน หากไอจามไม่ควรเข้าใกล้ผู้อื่นหรืออยู่ห่างอย่างน้อย 2 เมตร และให้หันหน้าไปยังทิศทาง ตรงข้ามกับตำแหน่งที่มีผู้อื่นอยู่ด้วย

4. หากไอจามขณะที่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ต้องเอามือมาปิดปากและไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัยออก เนื่องจากมืออาจเปรอะเปื้อน หากไอจามขณะที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยให้ใช้ต้นแขนด้านในปิดปาก และจมูก

5. ถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ (หากมือเปรอะเปื้อนให้ล้างด้วยสบู่ และน้ำ) โดยเฉพาะภายหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ขณะไอ จาม หรือหลังจากถ่ายปัสสาวะหรือ อุจจาระ และ ก่อนสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีผู้อื่นในบ้านใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได มือจับตู้เย็น ฯลฯ

6. กรณีที่เป็นมารดาให้นมบุตร ยังสามารถให้นมบุตรได้ เนื่องจากยังไม่มีรายงานพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำนม แต่มารดาควรสวมหน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างเคร่งครัดทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือให้นมบุตร

7. ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย ให้ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ

8. การทำความสะอาดห้องน้ำและพื้นผิว ควรทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์หรือพื้นที่ที่อาจปนเปื้อน เสมหะ น้ำมูก อุจจาระ ปัสสาวะหรือสารคัดหลั่งด้วยน้ำและน้ำยาฟอกผ้าขาว 5% โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (เช่น ไฮเตอร์, คลอรอกซ์) โดยใช้ 5% โซเดียมโซเดียมไฮโปคลอไรต์ น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำ 99 ส่วน หรือ 0.5% (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วน ต่อน้ำ 9 ส่วน)

9. แยกสิ่งของส่วนตัวไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น จาน ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์

10. ไม่ร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่น ควรให้ผู้อื่นจัดหาอาหารมาให้ แล้วแยกรับประทานคนเดียว ถ้าเป็น อาหารที่สั่งมา และต้องเป็นผู้รับอาหารนั้น ควรให้ผู้ส่งอาหารวางอาหารไว้ ณ จุดที่สะดวก แล้วไปนำอาหาร เข้าบ้าน ไม่รับอาหารโดยตรงจากผู้ส่งอาหาร

11. ซักเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนูฯลฯ ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอกตามปกติหากใช้เครื่องซักผ้าให้ใช้ ผงซักฟอก และ น้ำยาปรับผ้านุ่มได้

12. การทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วและขยะที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งให้ใส่ถุงพลาสติก และปิดปากถุงให้สนิท ก่อนทิ้งขยะที่ฝาปิดมิดชิด และทำความสะอาดมือ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือ น้ำ และสบู่ ทันที

ลักษณะของบ้านพักอาศัยที่เหมาะสม

บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงที่ต้องแยกตัว ควรจะต้องมีลักษณะ ดังนี้

1. ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องอาศัยในสถานที่พักอาศัยตลอดระยะเวลากักตัว ไม่ให้ออกจากที่พัก

2. มีห้องนอนส่วนตัว ถ้าไม่มีควรมีพื้นที่กว้างพอที่จะนอนห่างจากผู้อื่นกรณีมีผู้อยู่ร่วมบ้าน และต้องเปิด ประตูหน้าต่างให้ระบายอากาศได้ดี

3. มีผู้จัดหาอาหารและของใช้จำเป็นให้ได้ ไม่ต้องออกไปจัดหานอกบ้านด้วยตนเอง

4. ผู้ที่อยู่อาศัยร่วมบ้านสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องสุขอนามัย และการแยกจากผู้ป่วยได้

5. สามารถติดต่อกับโรงพยาบาลและเดินทางมาโรงพยาบาลได้สะดวก
หากบ้านหรือที่พักไม่เหมาะสม อาจต้องหาสถานที่แห่งอื่นในการแยกตัว

การสังเกตอาการเมื่อต้องแยกกักตัวที่บ้าน

ให้สังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิและ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ทุกวัน

1. หากมีอาการแย่ลง คือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส หายใจ

2. หอบเหนื่อย วัดค่าออกซิเจนปลายนิ้วได้น้อยกว่า94% หรือไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทร.ติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่

3. เมื่อจะต้องเดินทางไปโรงพยาบาลให้ใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถที่โรงพยาบาลมารับ ไม่ใช้รถสาธารณะ ให้ทุกคนในรถใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง หากมีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถ เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ

แพทย์ติดตามดูแลผู้ป่วยกักตัวที่บ้านอย่างไร

ในส่วนของคำแนะนำสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการติดตามดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ที่บ้าน อาจปรับได้ตามดุลพินิจของแพทย์ โดยพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยและด้านการควบคุมโรค ประกอบกัน ดังนี้

1. เป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่แสดงอาการ

2. มีสุขภาพแข็งแรง อาจมีโรคร่วมที่รักษา และ สามารถควบคุมได้ตามดุลพินิจของแพทย์

3. อายุน้อยกว่า 75 ปี

4. ยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง

การดำเนินการของโรงพยาบาลกับผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน

1. ให้ดำเนินการติดต่อกลับผู้ป่วยให้เร็วที่สุดภายใน 6 ชั่วโมง หลังผู้ป่วยโทร.แจ้ง 1330

2. ประเมินความเหมาะสมสำหรับผู้ติดเชื้อตามดุลพินิจของแพทย์

3. ลงทะเบียนผู้ติดเชื้อที่เข้าเกณฑ์แยกกักตัวที่บ้าน

4. แนะนำการปฏิบัติตัวที่บ้านให้กับผู้ติดเชื้อ

5. ติดตามและประเมินอาการผู้ติดเชื้ออย่างน้อยวันละครั้ง หรือ ตามดุลพินิจของแพทย์โดยให้ผู้ติดเชื้อ วัดอุณหภูมิ และวัดระดับออกซิเจนในเลือดทุกวัน ผ่านระบบการสื่อสาร

6. เมื่อผู้ติดเชื้อมีอาการมากขึ้นให้มีระบบนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล

7. ทั้งนี้ระหว่างติดตามอาการของผู้ป่วย แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาตามความเหมาะสม ตามแนวทาง

เวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการปรับปรุง เป็นระยะตามข้อมูลและสถานการณ์ สามารถติดตามฉบับปัจจุบันจาก https://covid19.dms.go.th/ (ฉบับปัจจุบัน วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564) โดยมีระบบการจัดส่งยา การแนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับ การรับประทานยา การสังเกตผลข้างเคียงที่เหมาะสม ตามบริบทของแต่ละโรงพยาบาล และรับผู้ป่วย มารักษาในโรงพยาบาล