
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง
สัปดาห์นี้ฟีฟ่าประกาศโปรเจ็กต์ใหญ่ถึง 2 งาน หนึ่งคือยืนยันว่าฟุตบอลโลก 2026 เพิ่มทีมในรอบสุดท้ายเป็น 48 ทีมแน่นอน มีแมตช์แข่งถึง 104 นัด มากสุดเท่าที่เคยมีมา
งานที่ 2 จะปรับฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกเป็นทัวร์นาเมนต์ 32 ทีม กะให้ยิ่งใหญ่เหมือนบอลโลกระดับสโมสร
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- มหาดไทยออกระเบียบใหม่ ตั้งคณะกรรมการชุมชน รับค่าตอบแทนรายเดือน
- ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต อายุ 55 ปี หลังซ้อมแข่งรถที่บุรีรัมย์
รายการนี้เดิมทีมีเตะกันแค่ 7 ทีม ฟอร์แมตใหม่จึงแทบจะกลายเป็นคนละเรื่องกันเลย
แต่ที่แน่ ๆ คือ ไอเดียใหม่ของฟีฟ่าทั้ง 2 งานนี้มีผลต่อนักเตะ และทีมต้นสังกัด ชนิดที่ต้องปรับตัวกันวุ่นวาย
บอลโลก 2026 มีเจ้าภาพร่วม 3 ชาติ สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก ส่วนใหญ่แข่งที่อเมริกาซึ่งใช้สนามรองรับถึง 11 สนาม เม็กซิโก 3 สนาม แคนาดามีแค่ 2 สนาม
การเพิ่มเป็น 48 ทีม ทำให้ทัวร์นาเมนต์ลากยาว 39 วัน จำนวนแมตช์เพิ่มเป็น 104 แมตช์ มากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ มีแข่งกันแค่ 64 นัดเท่านั้น
ตอนแรกฟีฟ่าจะปรับระบบรอบแบ่งกลุ่มให้มี 16 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม แต่กลัวบอลเตะกันไม่สนุก เลยลดเหลือ 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ที่ 1-ที่ 2 เข้ารอบน็อกเอาต์อัตโนมัติ ที่เหลือจะมีทีมอันดับ 3 ผลงานดีสุด ตามเข้าไปอีก 8 ทีม
เท่ากับรอบน็อกเอาต์จะเริ่มจาก 32 ทีม ไม่ใช่ 16 ทีมอย่างที่เคยเป็น
แน่นอนว่า ทีมเยอะขึ้น จำนวนนัดเพิ่มขึ้น ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดก็ต้องแพงกว่าเดิม (อาจจะ) หลายเท่า
บ้านเรามีปัญหากับกฎ Must Have ต้องถ่ายบอลโลกทางฟรีทีวี ทำให้เอกชนไม่กล้าลงทุนซื้อ คราวต่อไปมีเวลาเตรียมตัว 4 ปี จะถอดบอลโลกพ้น Must Have หรือจะใช้แผนไหน ก็ควรเริ่มคิดได้แล้ว
อย่าให้ไฟลนก้นมาซื้อลิขสิทธิ์ก่อนแข่ง 3 วัน เหมือนบอลโลกกาตาร์เด็ดขาด เพราะหนนี้แพงแน่ ๆ ถ้าฉุกละหุกมีสิทธิหาเงินไม่ทัน และจะสู้ราคาไม่ไหวเอา
งานใหญ่ระดับนี้ต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นปี
ฟุตบอลโลกเป็นทัวร์นาเมนต์กีฬาอันดับ 1 มูลค่ามีแต่จะสูงขึ้น ยิ่งเพิ่มปริมาณทีมในรอบสุดท้าย ก็ยิ่งเพิ่มฐานคนดูมากกว่าเดิม ฟีฟ่ามีแต่จะรับทรัพย์อู้ฟู่
แต่อีกโปรเจ็กต์ที่คิดขึ้นมาคือ เพิ่มทีมในบอลชิงแชมป์สโมสรโลกเป็น 32 ทีม อันนี้ส่อแววว่า เล่นใหญ่เกินตัว โอกาสแป้กมีสูง
ปัญหาสำคัญคือ ฟีฟ่าจะให้แข่งกันช่วงซัมเมอร์เดือนมิถุนายน เริ่มปี 2025 เท่ากับเอางานนี้มาลงแทนโปรแกรมพรีซีซั่น ซึ่งบรรดาทีมในยุโรปเพิ่งเรียกนักเตะกลับเข้าค่ายซ้อม ทยอยลงเตะอุ่นเครื่องเตรียมสู้ศึกฤดูกาลใหม่
แต่พอจับบอลชิงแชมป์สโมสรโลกมาแข่งช่วงพรีซีซั่น คำถามก็คือ นักเตะจะเล่นไหวไหม ความพร้อมมีแค่ไหน บอลลีกแข่งจบเดือนพฤษภาคม, มิถุนาฯจะให้แข่งต่อแบบเอาจริงเอาจัง เน้นผลชิงถ้วย มันก็ขอกันมากเกินไป
ไม่แปลกที่ทีมใหญ่ในยุโรปจะแสดงท่าทีต่อต้านรายการนี้ตั้งแต่แรก
ถ้าเป็นบอลโลกแข่งกัน 4 ปีต่อ 1 ครั้ง ยังรับได้ แต่จะเอาบอลสโมสรโลก 32 ทีม มาลงช่วงซัมเมอร์ทุกปี ถือเป็น “เครซี่ไอเดีย” บ้าบิ่นชัด ๆ
นักเตะรับไม่ไหว สโมสรก็ต้องงดออกทัวร์ไปเตะอุ่นเครื่องต่างทวีป เสียรายได้ไปตาม ๆ กัน
แล้วจะหาทีมไหนมาเตะให้มันน่าสนใจตั้ง 32 ทีม โควตาทีมยุโรป 12 ทีม อาจจะเรียกแขก แต่ที่เหลือจะมีใครอยากดูไหม ?
งานนี้ฟีฟ่ามีแววหน้าแตกนะครับ