คอลัมน์ : คุยกับเอกราช ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์กวาด 3 แชมป์ ฤดูกาลที่แล้ว ปีนี้ก็ยังรักษามาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอ
ไม่แปลกแน่นอน ถ้าเรือใบสีฟ้าจะปิดจ็อบหรูเหมือนเดิม หรืออย่างน้อยก็น่าจะมีติดไม้ติดมือซัก 2 ถ้วย
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
โดยเฉพาะถ้วยยุโรป แชมเปี้ยนส์ ลีก, โอกาสใสแจ๋วกว่าปีก่อนซะอีก
แมนฯซิตี้ยุคนี้ คือ เบอร์หนึ่ง ดีที่สุดในยุโรปอย่างแท้จริง กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฉลียวฉลาด เป็นสุดยอดจอมวางแผน ขณะที่ตัวผู้เล่นก็เต็มไปด้วยเวิลด์คลาส
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, โรดรี้, ไคล์ วอล์คเกอร์, แบร์นาโด้ ซิลวา คือตัวท็อปในตำแหน่งของตัวเอง แจ๊ค กรีลิช-ฟิล โฟเด้น เก่งทั้งลากเลื้อย และยิงประตู
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ริโก้ ลูอิส ยอชโก้ กวาร์ดิโอล ก็เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ความยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า
แล้วอย่าลืมว่า ปีนี้ ซิตี้มี เฌเรมี่ โดกู
โดกู ปีกทีมชาติเบลเยียม อายุเพิ่ง 21 ย้ายมาจากแรนส์ ค่าตัว 55.5 ล้านปอนด์ ก่อนมาถือว่าเก่งระดับหนึ่ง แต่มาแล้วดันเก่งกว่าที่คิด กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการล่าความสำเร็จของทีมไปแล้ว
ถ้าเปรียบกับตัวริมเส้นของทีมอื่นในพรีเมียร์ลีก อาจมีแค่ โม ซาล่าห์ ของลิเวอร์พูลที่ดีกว่า
แต่โดกูก็เด่นมากเรื่องความเร็ว ความแข็งแรง แถมชอบ “ท้าดวล” เลี้ยงจี้ใส่แบ็กคู่แข่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะโดนฉีกกระจุยกระจาย
เท่ากับว่า ซิตี้มีตัวจี๊ดขั้นสุด ทั้งฝั่งซ้าย-ขวา แจ๊ค กรีลิช และเฌเรมี่ โดกู
ส่วนตรงกลาง-ในเขตโทษ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็ยังถล่มทลายเหมือนเดิม
ฮาลันด์ฤดูกาลที่แล้ว ยิงรวมทุกถ้วย 52 ประตู จาก 53 นัด ฤดูกาลนี้เพิ่งเล่นไป 16 นัด ยิง 15 ประตู
มีแววว่าจะเข้าหลักสี่, 40 ประตูอัพ เป็นอย่างต่ำ
เรือใบสีฟ้าอาวุธครบมือ เกมรุกโคตรดุ เกมรับเหนียวหนึบ เทียบกับยักษ์ใหญ่ทีมอื่นในยุโรปแล้ว ซิตี้ดีกว่าชัดเจน
บาเยิร์น มิวนิก เก่ง แต่ก็ไม่เก่งกว่า, เรอัล มาดริด กับบาร์เซโลน่า อยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ทั้งคู่ อินเตอร์ มิลาน กับนาโปลี 2 บิ๊กอิตาลี ก็ยังทาบไม่ติดเช่นกัน
ว่ากันว่า โอกาสที่แมนฯซิตี้จะคว้าแชมป์ยุโรปปีนี้ มีมากกว่าเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกซะด้วยซ้ำ
เรือใบสีฟ้าถูกมองว่าจะครองเจ้าบอลอังกฤษไปอีกหลายปี และนับวันจะยิ่งทิ้งห่างทีมร่วมเมือง แมนฯยูไนเต็ด
คอลัมนิสต์ในอังกฤษหลายคนวิเคราะห์ว่า ที่เรือกับผียิ่งเล่นยิ่งห่างเป็นเพราะ แมนฯซิตี้มีความนิ่งกว่า การบริหารทีม การทำงานของทุกฝ่ายในสโมสร ประสานไปในทิศทางเดียวกัน ตั้งแต่ตัวประธาน, ซีอีโอ, ผู้อำนวยการกีฬา, ผู้จัดการทีม, สตาฟโค้ช และนักเตะ
ที่สำคัญ, ซิตี้ไม่เคยหาแพะเวลาแพ้
ไม่เหมือนยูไนเต็ด ที่แพะเพ่นพ่านเต็มทีม
นาทีนี้ สีฟ้าครองเมืองแมนเชสเตอร์ สีแดงคือองค์ประกอบเล็ก ๆ ในภาพใหญ่เท่านั้น
อย่างน้อยก็อีก 5 ปี
