รายงานข่าวจาก DHL eCommerce ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แจ้งว่า ได้ประกาศความร่วมมือกับ JD CENTRAL เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง เซ็นทรัลกรุ๊ป บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับ JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่จากประเทศจีน
ความร่วมมือครั้งนี้จะอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์บน JD CENTRAL ให้เข้าถึงบริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วผ่าน DHL eCommerce ด้วยเครือข่ายการให้บริการจัดส่งที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล และจุดบริการ DHL ServicePoint สำหรับการเป็นทั้งจุดรับและจุดฝากส่งพัสดุที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบพัสดุได้ทุกสถานะการจัดส่ง พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลด้านการจัดส่งสินค้าผ่านระบบ API ที่ทันสมัยและใช้งานง่ายสำหรับผู้ขายสินค้าบน JD CENTRAL
โดยสามารถเลือกใช้บริการจัดส่งภายในวันถัดไป (Next-day Delivery) ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลและเมืองหลักในจังหวัดต่างๆ และบริการจัดส่งภายใน 2-3 วันในเขตพื้นที่ห่างไกล รวมถึงบริการจัดส่งภายในวันเดียว (Same-day Delivery) ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งยังมีบริการรับชำระเงินปลายทาง หรือ Cash-on-delivery ที่ปลอดภัยและรวดเร็ว โดยสามารถคืนเงินค่าสินค้าถึงผู้ประกอบการภายใน 3 วันหลังการจัดส่ง ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในไทยที่เลือกชำระเงินในรูปแบบนี้ถึง 70% เมื่อช้อปออนไลน์
นายวินเซนต์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ DHL eCommerce จะช่วยสนับสนุนและทำให้ JD.co.th เข้าใกล้เป้าหมายในการเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของประเทศไทยในอนาคต จากปัจจุบันที่ถึงกลุ่มนักช้อปออนไลน์กว่า 13 ล้านรายทั่วประเทศ ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงถึง 22% ต่อปี
ด้านนายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทมีตั้งเป้าหมายที่จะช่วยทำให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์มีความสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านบริการจัดส่งของ DHL eCommerce ที่รวดเร็ว พร้อมตัวเลือกการให้บริการที่หลากหลาย จึงยินดียิ่งที่ได้ทำหน้าเป็นผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซโลจิสติกส์สำหรับ JD CENTRAL