ไอซีที

“แกร็บ” ลุยต่อไม่รอ กม. จัดหนัก “เพย์เมนต์-ฟู้ด”

เดินหน้าผนึกพันธมิตรในทุกธุรกิจ อย่างต่อเนื่องสำหรับ “แกร็บ” ในประเทศไทย ล่าสุดได้จับมือกับธนาคารซิตี้แบงก์เปิดตัวบัตรเครดิตโคแบรนด์ “ซิตี้แกร็บ” เจาะตลาดไลฟ์สไตล์ต่อยอดบริการด้านเพย์เมนต์ให้เติบโตขึ้นไปอีก

“ธรินทร์ ธนียวัน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายใน “แกร็บ” ที่เป็น “non cash” เติบโตก้าวกระโดดอย่างมาก มากเสียยิ่งกว่าการเติบโตของผู้ใช้งานแกร็บเสียอีก ยิ่งเมื่อได้จับมือกับ “KBank” ในการเปิดตัวบริการ e-Wallet “GrabPay by KBank” เมื่อปีก่อน ยิ่งเติบโตอย่างมาก

และภายในไตรมาสนี้จะเห็นการนำ GrabPay ออกไปใช้จับจ่ายนอกอีโคซิสเต็มของ “แกร็บ” โดยเฉพาะในหมวด “กินดื่ม” ทั้งหลายเพื่อให้ล้อกับการบริการ GrabFood ซึ่งเป็นบริการที่มีอัตราการเติบโตสูงมากเป็นอันดับหนึ่งในหมู่บริการทั้งหมดของแกร็บ

“บริการ GrabFood เป็นการช่วยให้ร้านค้าพันธมิตรของเราเติบโตได้ในช่องทางออนไลน์ แต่การเพิ่มให้ใช้จ่ายได้ผ่าน GrabPay จะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายทางหน้าร้านที่เป็นออฟไลน์ให้ด้วย โดยแกร็บจะมีสิทธิประโยชน์เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้ใช้งานและเพิ่มยอดขายให้พาร์ตเนอร์เติบโตไปพร้อมกับเรา”

แต่ในส่วนของการจะเปิดให้บริการ “สินเชื่อ” นั้น แม้แกร็บจะได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว แต่ยังจำกัดขอบเขตการให้บริการเฉพาะพาร์ตเนอร์ที่เป็นคนขับของแกร็บเท่านั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกสัก 1-2 ปี กว่าจะเปิดเป็นบริการในวงกว้าง

ด้านบริการ GrabFood ยังเดินหน้าขยายให้บริการต่อเนื่อง เพราะทำได้ทันทีไม่ติดล็อกปัญหาด้านกฎหมาย โดยสิ้นปีนี้จะมีอย่างน้อย 13 จังหวัดได้ใช้งาน ทั้งยังเปิดให้บริการ “Grab Kitchen” เพื่อเป็นครัวกลางให้สนับสนุนร้านค้า-ร้านอาหารให้มีพื้นที่ทำอาหารส่งถึงลูกค้าของแกร็บ

รวมถึงเริ่มทดลองเปิดบริการส่งอาหารในรูปแบบของ “Grab Walk” ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจากทั้งฝั่งพาร์ตเนอร์ที่สมัครเข้ามาทำงานร่วมกับแกร็บเป็นจำนวนมาก และลูกค้า แต่ยังจะเปิดให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ โดยเน้นพื้นที่ใกล้เคียงกับห้างสรรพสินค้า-ย่านอาคารสำนักงานเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผู้ส่งต้องเดินไกลและลูกค้าได้รับสินค้าช้า

“ปีนี้ถือเป็นปีทองของแกร็บประเทศไทย เราเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาก ๆ ในหลายบริการ ทั้งที่หลายส่วนยังไม่ได้เปิดตัวโปรโมตทำตลาดอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น GrabPay GrabWalk ยิ่ง GrabFood ยิ่งโตมาก ๆจากที่ 4 เดือนแรกทำลายสถิติของทั้งปี 2561 ไปแล้ว จนทำให้เราเป็นเจ้าตลาด ก็ยังมียอดเติบโตมาก ๆ และยิ่งแข่งขันยิ่งดีเพราะจะทำให้เรายิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ และลูกค้าได้รับบริการที่ดี”