“เดอะเมิร์ช” อีเธอเรียม ปลุกดราม่าคริปโตฯ เดือดอีก

บิตคอยน์ - คริปดต

สาวกบิตคอยน์ ฟาด การอัพเกรดใหญ่ คือ การแสดงโชว์ม้าและสุนัข การโหวตและตรวจสอบมีความเป็นเผด็จการสูงมาก และนั่นคือความไม่มั่นคง ฝั่งสาวกอีเธอเรียมและสมาร์คอนแทรคสวนกลับนัว

วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานสีสันในวงการคริปโตเคอเรนซี หลังจากที่นักพัฒนาอีเอเรียมประกาศความสำเร็จในการทดสอบเครือข่ายเพื่ออัพเกรดเดอะเมิร์ช (The Merge Ethereum) ชุมชนคริปโตฯ ในฝั่งสาวกบิตคอยน์ (Bitcoiner/Bitcoin Maximalist) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัวๆ

โดย The Merge Ethereum จะเป็นเปลี่ยนระบบฉันทามติในการพิสูจน์และยืนยันการมีอยู่ของธุรกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชนอีเธอเรียม จาก Proof of work ซึ่งมีต้นแบบจากบิตคอยน์ ไปสู่ Proof of Stake ที่จะใช้อำนาจการโหวตของผู้ถือครองเหรียญที่ฝาก (Stake) เพื่อเป็นโหนดตรวจสอบธุรกรรม หรือพูดง่ายๆ ว่า “เปลี่ยนโครงสร้าง” ของบล็อกเชนไปเลย

นายนิก เพย์ตัน บิตคอยเนอร์ ได้ออกมาทวีตข้อความวิจารณ์ Proof of Stake เมื่อวันที่ผ่านมา ว่า “ข้อเท็จจริงที่ว่าคุณสามารถโหวตเพื่อเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติพื้นฐานของบางสิ่งได้ มันคือสิ่งที่จะยืนยันถึงความมั่นคงปลอดภัย”

กล่าวคือ การเปลี่ยนเป็น Proof of stake จะทำให้มีการโหวตเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและคุณสมบัติพื้นฐานของบล็อกเชนได้ในอนาคต เขามองว่ามันไม่เป็นความมั่นคงปลอดภัย (it’s a security) เพราเขาก็ได้ทวีตถามทิ้งท้ายว่า แล้วหลัง The Merge จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในอีเธอเรียมต่ออีกบ้าง กรณีนี้จะตรงข้ามกับบิตคอยน์ที่การอัพเดตซอฟแวร์แต่ละครั้งต้องใช้การโหวตเกือบร้อยเปอร์เซนต์จากโหนดทำให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้ยากมีความมั่นคงกว่า

นายวิตาลิก บูตริน ผู้ก่อตั้ง Ethereum ร่ายยาวสวนกลับแทบทันที่ว่า

“น่าทึ่งจริง ที่สาวก Proof of work ยังคงโกหกหน้าซื่อต่อไปว่าอีเธอเรียมเปลี่ยนไปเป็น Proof of stake หมายถึงการเปลี่ยนพารามิเตอร์โปรโตคอลให้ถูกกำหนดด้วยการโหวต ทั้งที่จริงแล้วระบบฉันทามติทั้งสองไม่มีพารามิเตอร์โปรโตคอลเกี่ยวกับการโหวต”

นอกจากนี้นายวิตาริก ยังวิจารณ์โวหารของนายนิก เพย์ตัน ที่ใช้คำว่า it’s a security (มันคือการรักษาความมั่นคงปลอดภัย) ทั้งที่ทางอีเธอเรียมใช้คำว่า it’s a secure (มันปลอดภัย) เวลาพูดถึงระบบ Proof of Stake

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน บิตคอยเนอร์ อย่างนาย “จิมมี่ ซอง” นักเขียนหนังสือเกี่ยวกับบิตคอยน์ ได้ออกมาวิจารณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาด้วย ว่า

“Proof of Stake” คือการโชว์สุนัขและม้าที่ยอดเยี่ยม คุณต้องโหวตโชว์ในแบบที่ผู้ควบคุมส่วนกลางต้องการ ไม่เช่นนั้นคุณจะเสียเงิน การโหวตมีความสุจริตแน่นอนแต่เป็นความสุจริตแบบเผด็จการ 100%”

นายชาร์ล ฮอร์กินสัน ผู้ก่อนตั้งเหรียญสมาร์ทคอนแทรคดัง ADA Cardano และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ทวีตสวนนายจิมมี่ ทันทีว่า “นายจิมมี่แสดงความโง่อีกแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”

ในชุมชนคริปโตฯ มีข้อโต้แย้งและข้อถกเถียงเกี่ยวกับประเด็น Proof of Work และ Proof of Stake มากมาย ฝั่งบิตคอยน์เนอร์ที่เชื่อมั่นใน PoW จะมองว่าเป็นระบบที่ยุติธรรมชัดเจนและกระจายอำนาจให้คอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์แข่งขันกันขุดหรือส่งพลังคำนวนเพื่อยืนยันและบันทึกธุรกรรมบนบล็อกเชน

ขณะที่ PoS จะทำให้คนที่ถือครองเหรียญเยอะมีอำนาจโหวตหรือตัดสินใจเรื่องต่างๆ ของระบบได้ไม่ต่างจากระบบเผด็จการเสียงข้างมาก

ฝั่งที่เชื่อมั่นใน PoS มองว่าการยกเลิกเครื่องขุดจะประหยัดพลังงาน รวดเร็ว และสามารถขยายขนาดการใช้งานให้กว้างขวางเหมาะแก่การใช้งานจริงมากกว่า