หลังนักพัฒนา “อีเธอเรียม”เคาะกำหนดเผยโฉม The Merge 19 ก.ย. ดันราคา ETH พุ่งต่อเนื่องกว่า 50% ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ฟาก “ผู้ก่อตั้ง” เผย 4 ตัวอัพเกรดต่อไป
วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าราคาของเหรียญอีเธอเรียม (Ethereum) เหรียญอันดับสองในตลาดคริปโตเคอเรนซี เติบโตกว่า 50% ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 65 ETH มีราคา 1,100 เหรียญสหรัฐ ปัจจุบันเคลื่อนไหวระหว่าง 1,500-1,600 เหรียญสหรัฐ
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
- ครม.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐา-เพื่อไทย รุกแก้เศรษฐกิจ
ผลพวงเกิดจากการประกาศกำหนดการ “เดอะเมิร์ช” ของนักพัฒนาอีธอเรียม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนระบบฉันทามติของเครือข่ายบล็อกเชนจาก Proof of work สู่ Proof of Stake ที่จะช่วยลดพลังงานในการประมวลผลของเครือข่ายลง 99% โดยกำหนดการล่าสุด คือ วันที่ 19 ก.ย.นี้ จะมีการเมิร์ชเกิดขึ้นบนเครือข่ายหลัก (Ethereum Mainnet)
อย่างไรก็ตาม นายวิตาลิก บูตริน ผู้ก่อตั้งอีเธอเรียม ได้กล่าวในที่ประชุมประจำปีของอีเธอเรียมที่กรุงปารีส (EthCC) เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การพัฒนาอีเธอเรียมไม่ได้จบแค่เดอะเมิร์ช ยังมีกลไกที่ต้องอัพเกรดหลังจากนั้น (Post Merge) อีกหลายส่วน ได้แก่ The Surge, The Verge, The Purge และ The Splurge เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดเครือข่ายจะมีความเร็วเพิ่มขึ้น 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที สร้างความปลอดภัยได้ดีขึ้น และกระจายอำนาจมากขึ้น
The Surge จะเป็นการปรับขนาดด้วยเทคโนโลยี Shading
The Verge จะช่วยลดขนาดโหนดและลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย
The Purge ล้างข้อมูลบางส่วนเพื่อลดความแออัดของเครือข่าย
The Splurge การตรวจสอบและอัพเกรดเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้การอัพเกรดทั้งหมดที่ผ่านมาสามารถทำงานต่อไปได้อย่างราบรื่น
นายพลากร ยอดชมญาณ นักพัฒนาอีเธอเรียมชาวไทย และผู้ก่อตั้ง Kulap แพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (DEX) เผยมุมมองการอัพเกรดหลัง “เดอะเมิร์ช” ของอีเธอเรียมผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า
“วิตาลิกคิดว่าอีเธอเรียมสำหรับเขาเสร็จไป 55% เมื่อถึง The Merge นั่นแปลว่าใน Chapter ของ PoS (Proof of stake) นี้ เราจะอยู่กับการพัฒนาอีเธอเรียมไปอีกราว ๆ 7-8 ปี”
