“ทูตอินเดีย” รุกดึงธุรกิจอีสานไปลงทุน

ทูตอินเดีย

อินเดียเดินสายชวนนักธุรกิจอีสาน ลงทุน “เภสัชภัณฑ์-แปรรูปอาหาร-เกษตร-ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง” พร้อมเปิดทางหนุน “สตาร์ตอัพ” ลงทุน ด้านหอการค้า-สภาอุตสาหกรรมอุดรฯ เผยศักยภาพเมืองอุดร จังหวัดศูนย์กลางภาคอีสานตอนบน พร้อมชวนกลับดึงนักธุรกิจเข้ามาลงทุน

นายธรเมนทรา ซิงห์ เลขานุการเอกฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวในการจัดงานสัมมนา “โอกาสทางธุรกิจในประเทศอินเดีย” ณ จังหวัดอุดรธานี ว่า ไทยถือเป็นจุดหมายการค้าขนาดใหญ่อันดับ 5 ในภูมิภาคอาเซียน การค้าทวิภาคีระหว่างอินเดียและไทยเติบโต มีมูลค่าถึง 17.7 พันล้านดอลลาร์

เมื่อปี 2022 การลงทุนทวิภาคีเติบโตอย่างมาก มีบริษัทไทยไปลงทุนที่อินเดีย เช่น บริษัทในเครือ ปตท. และเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล และหลายบริษัทของอินเดียได้เข้ามาลงทุนในไทย ทั้งนี้ ทางอินเดียยินดีต้อนรับบริษัทของไทยที่สนใจเข้าไปทำธุรกิจ ร่วมลงทุนและการเป็นหุ้นส่วน สถานทูตยินดีอำนวยความสะดวกกับทุกบริษัท

ภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการค้าและการลงทุนทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศ ได้แก่ สินค้าวิศวกรรม อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์อินทรีย์และอนินทรีย์ ผลิตภัณฑ์ทางทะเล แต่ยังมีภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ทั้งสองประเทศยังไม่เล็งเห็นถึงศักยภาพ นั่นคือ เภสัชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ฯลฯ

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพที่จะดำเนินความร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน อาทิ เทคโนโลยีสารสนเทศ ไอทีและ ITES ฟินเทค เทคโนโลยีสำหรับอนาคต เช่นวิทยาการหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

ทูตอินเดีย

รัฐบาลอินเดียพร้อมอำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในอินเดีย โดยได้ผ่อนปรนเพดานการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเกือบทุกภาคอุตสาหกรรม อาทิ ก่อสร้าง ธนาคาร รถไฟ การค้าปลีก สนามบิน ฯลฯ มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศร้อยละ 100 ในการค้าปลีก และบริการออนไลน์ และการค้าปลีกแบบแบรนด์เดียวผ่านช่องทางอัตโนมัติ อินเดียมีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศปี 2021-2022 มูลค่า 83.5 พันล้านดอลลาร์

นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานี ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการลงทุน ด้วยทำเลที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบน และอยู่ติดกับจังหวัดหนองคายที่เป็นประตูสู่อินโดจีน อีกทั้งยังมีพื้นที่มากเป็นอันดับ 4 ของภาคอีสาน

รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบกลุ่มเมือง ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กำหนดยุทธศาสตร์ให้เป็นศูนย์กลางพัฒนาการค้าชายแดน และการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพื่อการส่งออกไป สปป.ลาว

และศูนย์กลางอุตสาหกรรมโปแตซ ในอนาคตอุดรธานี สามารถเป็นศูนย์กลาง (hub) อุตสาหกรรมของภาคอีสานตอนบน เพราะอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC)

ทูตอินเดีย

ส่งผลให้อุดรธานีกลายเป็นฮับการขนส่ง-โลจิสติกส์ของภูมิภาค จึงเป็นโอกาสดีที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล เพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในระยะยาว

พันโท วรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีผลิตพืชเศรษฐกิจปีละหลายล้านตัน เป็นทำเลที่ดีสำหรับโรงงานเกษตรและอาหาร รวมถึงโรงงานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่หลายแห่ง และเหมืองแร่ รวมถึงโปแตซ และหินปูน

อีกทั้งสถานที่ตั้งอยู่ใจกลางภาคอีสานตอนบน และมีระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ที่กว้างขวาง ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้อุดรธานีเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการกระจายสินค้าของภาคอีสาน เช่น ตลาดเมืองทอง เป็นตลาดจำหน่ายสินค้าเกษตรใหญ่สุดในภาคอีสาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานีเป็นศูนย์รวมหลักของอีสานมากกว่า 20 ปี กระจายพืชผล ผลไม้ และพันธุ์ไม้ ไปทั่วพื้นที่ รวมถึง สปป.ลาว และเวียดนาม

ดังนั้น อุดรธานีมีโอกาสการลงทุนในหลายภาคส่วน มีแรงงานที่มีการศึกษา และมีทักษะ มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่สนับสนุน อุดรฯจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการลงทุนและขยายธุรกิจ จึงอยากเชิญนักธุรกิจอินเดียมาลงทุนในเมืองอุดร