SME สงขลาจี้รัฐดึงลงทุน เขตเศรษฐกิจพิเศษ-ท่าเรือน้ำลึก

ตัวเมืองหาดใหญ่

สมาพันธ์ SME สงขลาจี้รัฐดันโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ท่าเรือน้ำลึกสงขลา หวังนักลงทุนภาคอุตสาหกรรมสร้างงาน-สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนรอบนอก ธุรกิจเอสเอ็มอีฟื้นตัว จากที่ปัจจุบันเศรษฐกิจกระจุกเฉพาะตัวเมืองหาดใหญ่-อ.เมืองสงขลา

นายกร สุริยพันธุ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ภายในจังหวัดสงขลาได้เริ่มฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะ 2 อำเภอ คือ อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา ยังไม่ได้กระจายออกรอบนอก

ดังนั้น เพื่อให้เศรษฐกิจรอบนอกในอีกหลายอำเภอขยายตัวเติบโตขึ้น ในปี 2567 ทางภาคเอกชนประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดสงขลา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสงขลาจะช่วยกันผลักดันโครงการลงทุนของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา (SEZ) และโครงการท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่พยายามผลักดันกันมาในหลายรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจรอบนอกในอีกหลายอำเภอของจังหวัดสงขลาเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องเผชิญกับภาวะต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาพลังงาน น้ำมัน ค่าไฟฟ้า ดอกเบี้ย การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบหลายอย่างปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

“ตอนนี้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ฟื้นตัวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เฉพาะอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา ซึ่งมีการหมุนเวียนของเม็ดเงินและเศรษฐกิจที่เติบโต ยังไม่ได้กระจายออกรอบนอก ขณะที่จังหวัดสงขลา มีประชากรกระจายอยู่ใน 16 อำเภอ

ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัด และหลายภาคส่วนพยายามผลักดันการท่องเที่ยวออกไปสู่ชุมชนรอบนอก เพื่อสร้างความยั่งยืน แต่ยังต้องใช้เวลาระยะยาว เพราะนักท่องเที่ยวทางธรรมชาติส่วนใหญ่เมื่อนึกถึงการท่องเที่ยวทางทะเลจะไปยังจังหวัดภูเก็ต หากต้องการไปท่องเที่ยวภูเขา เข้าป่าจะมุ่งไปสู่จังหวัดทางภาคเหนือ ส่วนคนที่มาเที่ยวอำเภอหาดใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ชอบเอ็นเตอร์เทน กินเที่ยว ร้านอาหาร สถานบันเทิง”

นายกรกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลามีความก้าวหน้าเพียง 20% ดังนั้นจะต้องผลักดันกันเพื่อสร้างแรงจูงใจต่อนักลงทุนด้วยการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดทางด้านภาษี ฯลฯ

เพื่อดึงนักลงทุนให้เข้ามา พร้อมกับมีการขยายพื้นที่โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา จากเดิมกำหนดเฉพาะพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จะต้องมีการขยายไปยัง อ.สะบ้าย้อย อ.นาหม่อม อ.สทิงพระ ฯลฯ เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามา

“หากรัฐบาลจะดึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่เข้ามาได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา และโครงการท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญเป็นท่าเรือขนส่งระหว่างประเทศ และท่าเรือสำราญรองรับนักท่องเที่ยวนานาชาติ

จะเกิดการจ้างงานแรงงานนับหมื่นคน ทั้งแรงงานในพื้นที่ และนักศึกษาที่จบใหม่จากมหาวิทยาลัยจำนวน 5 แห่ง และวิทยาลัยอีกจำนวนหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในภายในจังหวัดสงขลาจะมีงานทำ ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดในภาคตะวันออก ทั้งหมดนี้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาโดยตรง และเมื่อมีแรงงานเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ธุรกิจที่ตามมา เช่น การลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านโลจิสติกส์ โรงพยาบาล ธุรกิจเอสเอ็มอี ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะขยายตัวเติบโตขึ้นมารองรับ” นายกรกล่าว

“ในปี 2567 สำหรับความหวังของ จ.สงขลา ซึ่งทางภาคเอกชนทั้งหอการค้าจังหวัดสงขลา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา สมาพันธ์ SME ไทยจังหวัดสงขลาจะเดินหน้าทำการผลักดันต่อ เพราะโครงการอุตสาหกรรมจะเป็นโครงการที่ยั่งยืน” นายกรกล่าว