ก.มหาดไทย ลงพื้นที่ “เมืองคอน” เร่งแก้สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ระยะสั้น-ระยะยาว

ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้  พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าและการปฏิบัติการดับไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.62 รวม 94 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหาย 14,478 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ชะอวด , เฉลิมพระเกียรติ , เชียรใหญ่ , หัวไทร และ อ.ร่อนพิบูลย์ บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์จำนวน 30,000 บาท และจังหวัดมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

สำหรับพื้นที่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเสียหายจำนวน 4,551 ไร่ สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ยังเกิดไฟปะทุและมีกลุ่มควันไฟในพื้นที่ 3 จุดคือบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ , เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ต.เคร็ง อ.ชะอวด และหลังท่าว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ

นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า  แนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ได้มีการขุดดินอัดน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลุมขนาดเล็กหลายๆ จุดให้ครอบคลุมพื้นที่ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์รถสูบน้ำระยะไกล และรถแม็คโคร รวมถึงทางกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดชุดเตรียมความพร้อมชุดลาดตระเวนเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าดับไฟทันทีเมื่อเกิดเหตุและจัดชุดเฝ้าระวังลาดตระเวนพร้อมสนับสนุนการทำงานของกำลังพลจิตอาสาพร้อมอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในส่วนของการดับเพลิงและส่วนที่พิทักษ์ป่าพรุที่เกิดเหตุ

ส่วนมาตรการระยะยาวให้กรมชลประทานขุดสระเก็บน้ำ และทำคันคลองรอบป่าพรุเฝ้าระวัง รวมถึงสร้างความเข้าใจสร้างจิตสำนึกให้รักป่า โดยให้กรมป่าไม้กรมอุทยานจัดหาเนื้อที่ขุดสระเก็บน้ำเพื่อติดกับน้ำสำรองไว้ใช้ยามเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพรุ  ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราชจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการ และใช้ป่าพรุควนเคร็งอย่างยั่งยืน จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเกิดไฟไหม้ป่าพรุและให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ศึกษาวิจัยพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง

ด้านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนได้กำชับให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันในการปฎิบัติหน้าที่ระยะสั้นต้องดับไฟให้ได้ และระยะยาวให้จัดทำแผนแม่บทเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว คือต้องมีน้ำอยู่ในป่าพรุด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ เมื่อทำแผนแม่บทเสร็จแล้วก็จะสามารถดำเนินการได้เลยโดยตนได้ย้ำว่าแผนแม่บทต้องให้เสร็จภายในฤดูฝนปีหน้า และต้องมีการสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในการช่วยกันรักษาป่าพรุด้วย