“ไฮเซ่นส์” ลุยโค้งท้ายอัดโปรฯแรงรับบอลโลกลั่นทีวีโต 50%

ทีวีไฮเซ่นส์

“ไฮเซ่นส์” ทุ่มหนักทิ้งทวนปี’65 หวังกระแสบอลโลกหนุนยอดขายทีวีกระฉูด โหมแคมเปญใหญ่ลุ้นโชคสินค้ายกชุดทั้งทีวี-ตู้เย็น-เครื่องผ้า-แอร์ พร้อมเล็งจังหวะเปิดตัวเลเซอร์ทีวีรุ่นใหม่ เชื่อยุทธศาสตร์นี้ช่วยรักษาโมเมนตัมการเติบโตหลังครึ่งปีแรกยอดขายโตแล้ว 50% จากทีวีไซซ์ 75-85 นิ้ว ขายดีต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีปิดยอด 1.5 พันล้าน เติบโต 50% แน่

นายฉันท์ชาย พันธุ์ฟัก ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ ไฮเซ่นส์ ออฟฟิเชียลสปอนเซอร์ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โค้งท้ายปี 2565 ซึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลโลกตลาดทีวีมีแนวโน้มคึกคัก โดยจะได้เห็นแคมเปญลดแลกแจกแถม และอีเวนต์ธีมบอลโลกจากทั้งแบรนด์และร้านค้า ที่จะจัดกันคึกคักตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมยาวไปจนถึงสิ้นปี เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนปิดปี ขณะเดียวกันยังมีกระแสความต้องการอัพเกรดทีวีทั้งเพิ่มไซซ์เป็นจอใหญ่ขนาด 55-85 นิ้ว รวมถึงให้มีฟังก์ชั่นที่รองรับการเล่นเกม อย่าง HDMI 2.1 ความถี่การแสดงภาพ 120 Hz หรือความละเอียด 4K และอื่น ๆ

รวมถึงแนวโน้มราคาทีวีที่ลดลงจากปีที่แล้ว โดยทีวีของบริษัทราคาลดลงประมาณ 10% ดังนั้นโดยรวมในตลาดราคาปีนี้จึงถูกกว่าปีที่แล้ว ส่วนจะมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับจังหวะโปรโมชั่นของแต่ละแบรนด์ สะท้อนจากยอดขายของบริษัทซึ่งเติบโตถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังทีวีไซซ์ใหญ่ 75-85 นิ้ว ไปจนถึงรุ่นพรีเมี่ยมอย่าง เลเซอร์ทีวีขนาด 120 นิ้ว ทำยอดขายได้ดีมาตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแรก โดยในงานแฟร์ต่าง ๆ สามารถขายเลเซอร์ทีวีได้ครั้งละ 3-5 เครื่อง จากเดิมที่มักขายได้ 1-2 เครื่อง

“การแข่งขันฟุตบอลโลกจะมีผลกระตุ้นตลาดมากกว่าฟุตบอลยูโร ทุกครั้งที่มีการแข่งตลาดจะเติบโตอย่างน้อย 20% แต่ครั้งนี้อาจสูงได้ถึง 30-40% เพราะปีที่แล้วยอดตกกันเยอะ ในขณะที่ปีนี้ตลาดกำลังฟื้น ดังนั้นทุกแบรนด์จึงจะใช้โอกาสนี้ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เพราะเป็นช่วงที่สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างเห็นผล”

นายฉันท์ชายกล่าวว่า สำหรับทิศทางของไฮเซ่นส์ จะโฟกัสขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไป เนื่องจากเป็นไซซ์ที่กำลังมีดีมานด์สูง และปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งประมาณ 4% เป็นเบอร์ 4 ของตลาด จึงยังมีโอกาสทำยอดขายได้อีกมาก โดยอาศัยกระแสฟุตบอลโลกมาช่วยหนุน ด้วยการโฟกัสกลุ่ม ULED TV ขนาด 55 นิ้วขึ้นไป ในฐานะแฟลกชิปโมเดลของช่วงบอลโลก ด้วยการวางโพซิชั่นให้ทีวีรุ่น U7H ที่เป็นรุ่นท็อปของ ULED TV เป็นออฟฟิเชียลทีวีสำหรับบอลโลก 2022 ด้วยคุณสมบัติด้านการแสดงภาพเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลและคมชัดที่เหมาะกับดูกีฬา

Advertisment

พร้อมกับจัดแคมเปญ Perfect Match (15 ต.ค.-18 ธ.ค.) สร้างการรับรู้ว่าไฮเซ่นส์ มีสินค้าที่เหมาะกับการดูบอลโลกที่บ้าน โดยนอกจากจะโปรโมตทีวีแล้ว จะนำสินค้าหมวดอื่นอย่างตู้เย็นและแอร์มาร่วมแคมเปญ มีไฮไลต์เป็นกิจกรรมชิงโชครางวัลชุดสินค้า World Cup 2022 Family Pack ที่ประกอบด้วย เลเซอร์ทีวีขนาด 120 นิ้ว ตู้เย็นมัลติดอร์ขนาด 21.5 คิว เครื่องซักอบผ้าขนาด 10 กิโลกรัม แอร์ขนาด 2.4 หมื่นบีทียู รวมถึงรางวัลอื่น ๆ มูลค่ารวม 2.5 ล้านบาท ไปจนถึงแถมของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ เช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รวมถึงการรับประกันพิเศษ เปลี่ยนสินค้าใหม่ภายใน 60 วัน ที่ช่วยย้ำภาพความมั่นใจและความคุ้มค่าให้กับแบรนด์ รวมถึงช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น

เช่นเดียวกับการลดราคาสินค้าอย่าง ทีวีรุ่น U7H ขนาด 55 นิ้ว ลดจาก 24,990 บาทเหลือ 21,990 บาท ส่วนทีวีรุ่น 65A6500H ลดจาก 24,990 บาท เหลือ 17,990 บาท เป็นต้น โดยจะจัดทุกช่องทางจำหน่ายทั้งเชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและออนไลน์

พร้อมกันนี้กำลังวางแผนเปิดตัวเลเซอร์ทีวีรุ่นใหม่ เนื่องจากมองเห็นโอกาสทั้งในกลุ่มผู้ใช้โปรเจ็กเตอร์ที่ไม่ต้องการใช้ห้องมืด และกลุ่มผู้ใช้ทีวีที่ต้องการจอใหญ่มากระดับ 100 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเลเซอร์ทีวีสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 กลุ่ม ด้วยการได้หน้าจอขนาดใหญ่ 80-130 นิ้ว ใกล้เคียงโปรเจ็กเตอร์ แต่ใช้ในห้องธรรมดาได้และราคาถูกกว่าจอแอลอีดีในขนาดเดียวกัน

ด้านการสื่อสารจะยังเน้นสื่อออนไลน์และโซเชียลอย่าง การทำรีวิว เป็นหลัก เพราะตอบรับพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันที่นิยมศึกษาหาข้อมูลสินค้าก่อนไปหน้าร้าน จึงต้องมีแหล่งที่จะดูรีวิวหรือข้อมูลสินค้า รวมถึงหากพนักงานหน้าร้านมีข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวจะช่วยให้ปิดการขายง่ายขึ้น

Advertisment

“ด้วยกลยุทธ์การผลักดันทีวีขนาด 55 นิ้ว แคมเปญการตลาดร่วมกับแรงหนุนจากกระแสฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งไฮเซ่นส์เป็นออฟฟิเชียลสปอนเซอร์ ช่วยให้โลโก้ของแบรนด์ปรากฏสู่สายตาผู้บริโภคในทุกช่องทางคู่กับโลโก้ฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะการถ่ายทอดสด รายงานข่าว สื่อโฆษณา ฯลฯ จะสร้างทั้งการรับรู้และยอดขาย ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต 50% จากปีที่แล้ว หรือมียอดขาย 1,500 ล้านบาท ได้แน่นอน” นายฉันท์ชายย้ำ