การตลาด

ร้านอาหาร เปิดเกมใหม่ ดีลิเวอรี่ “เบอร์เดียว” ชิงลูกค้า

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

กระแสการสั่งอาหารผ่านช่องทาง “ดีลิเวอรี่” กำลังมาแรง เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการในแง่ของการเข้าถึงง่าย สะดวก และรวดเร็ว โดยหลายกลุ่มร้านอาหารต่าง ๆ เริ่มปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่นิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่ผู้บริโภคยุคใหม่กลับหันมาใช้บริการดีลิเวอรี่มากขึ้น

ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารในไทยมีมูลค่าประมาณ 400,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี และมีการแข่งขันสูง จึงไม่ต้องแปลกใจที่แบรนด์ร้านอาหารเร่งปรับกลยุทธ์ให้บริการดีลิเวอรี่ เพิ่มช่องทางขายเพื่อแย่งชิงลูกค้ากันอย่างดุเดือด

สอดคล้องกับ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า ปัจจุบันผู้คนเลือกใช้บริการดีลิเวอรี่มากขึ้น เพราะต้องการความสะดวกสบาย และเข้ากับวิถีชีวิตที่เร่งรีบมีข้อจำกัดด้านเวลา ขณะที่ร้านอาหารก็หันมาให้ความสนใจกับการให้บริการดีลิเวอรี่เพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมเพิ่มโอกาสการขายเสริมจากหน้าร้านที่ทราฟฟิกส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในช่วงกลางวัน เย็น หรือช่วงเทศกาล

โดยที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารในเครือซีอาร์จีและไมเนอร์ ฟู้ด ที่มีพอร์ตธุรกิจหลากหลายแบรนด์ ซึ่งในแต่ละแบรนด์ต่างแยกตัวออกมาทำการตลาดเพิ่มการขายดีลิเวอรี่ โดยล่าสุดถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ที่หลาย ๆ แบรนด์หันมาให้บริการสั่งดีลิเวอรี่ โดยใช้เบอร์โทรเดียว สามารถสั่งอาหารในเครือได้ครบทุกแบรนด์

ขณะที่กลุ่มร้านอาหารทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ ก็ขอชิงโอกาสขาย ทั้งส่งโปรโมชั่นแรง ซื้อ 1 ฟรี 1 หวังกระตุ้นยอดขายจากช่องทางดีลิเวอรี่ เริ่มต้นด้วยเครือซีอาร์จี บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำธุรกิจร้านอาหารมากถึง 11 แบรนด์ ได้เปิดให้บริการหมายเลขใหม่ “1312 สั่งครั้งเดียว อร่อยหลายร้าน”

ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์ โดนัท อานตี้แอนส์ เปปเปอร์ลันช์ ชาบูตง โคลสโตนครีมเมอรี่ เดอะเทอเรส โยชิโนยะ โอโตยะ เทนยะ และคัตสึยะ

โดยเปิดให้บริการในพื้นที่ย่านอาคารที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีร้านอาหารในเครือซีอาร์จี อาทิ อโศก, สุขุมวิท, ลาดพร้าว, บางนา และปิ่นเกล้า นอกจากจะเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

ตามมาติด ๆ กับกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินการร้านอาหารกว่า 7 แบรนด์ ได้แก่ เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ แดรี่ควีน เบอร์เกอร์คิง เดอะคอฟฟี่คลับ ไทยเอ็กซ์เพรส ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นโทรเบอร์เดียว “1112 Delivery อิ่มครบจบในแอปเดียว”

โดยสามารถสั่งอาหารพร้อมทาน อาหารทานเล่น ของหวาน เครื่องดื่ม ของแบรนด์ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฟู้ด หรือสามารถสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น 1112 มีค่าส่งระยะทางใกล้หรือไกล 50 บาท ทั่วประเทศ และยังมีกลยุทธ์จูงใจ เช่น เบอร์เกอร์คิง ส่ง เมนูเอ็กซ์ต้าลอง ไก่ชีส ราคา 179 บาท ซื้อ 1 ฟรี 1 แดรี่ควีน 1 ฟรี 1 และเดอะพิซซ่าคอมปะนีมีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ยาวต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับ “โออิชิ กรุ๊ป” ได้เปิดตัว โออิชิ ดีลิเวอรี่ โทร 1773 โดยสามารถสั่งอาหารญี่ปุ่น ทั้งเบนโตะ ซูชิ อาหารทานเล่น และข้าวหน้าต่าง ๆ พร้อมให้บริการในสาขาพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งได้เปิดให้บริการครอบคลุมสาขาพื้นที่ต่างจังหวัดมาก่อนหน้านี้แล้ว

ตามด้วยพิซซ่าฮัท ในปีที่ผ่านมาได้ชูกลยุทธ์พัฒนาเมนูพิซซ่าหน้าใหม่ ๆ ที่ถูกปากผู้บริโภค อาทิ เมนูมีสแอนด์ชีส ชิกแอนด์ชีส พร้อมเปิดตัวพิซซ่าฮัท โฉมใหม่ www.pizzahut.co.th เพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย

ขณะเดียวกัน “เอสแอนด์พี” ได้จับมือกับพาร์ตเนอร์ อาทิ แกร็บ, ฟู้ดแพนด้า ให้บริการดีลิเวอรี่ โทร. 1344 หรือสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น S&P Delivery ให้บริการส่งถึงหน้าบ้าน ถือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางขายให้หลากหลายและเข้ากับเทรนด์ของอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโต

วินาทีนี้แต่ละแบรนด์ต่างงัดสารพัดกลยุทธ์หวังขยายฐานผู้บริโภค และหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจจะต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้าและการบริการให้ดีที่สุด