การตลาด

“ไทยรอยัล” เพิ่มกำลังผลิตรับไอศกรีมโต

ไทยรอยัลไอศกรีมทุ่มงบฯกว่า 40 ล้าน ขยายฐานการผลิตรับดีมานด์โต เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รับเทรนด์สุขภาพ พร้อมชูจุดแข็งดีลิเวอรี่ ส่งฟรีกรุงเทพฯ/ปริมณฑล หวังสร้างรายได้โตต่อเนื่อง

นายภัทรพงษ์พันธ์ แม้นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรอยัลไอศกรีม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไอศกรีมแบรนด์ไทยรอยัล เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดไอศกรีมในไทยมีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท หรือเติบโต 8% ต่อปี โดยมองว่าธุรกิจไอศกรีมโฮมเมด หรือไอศกรีมเพื่อสุขภาพยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้น เห็นได้จากเทรนด์ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มดูแลสุขภาพ รวมทั้งภาวะการแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการทำการตลาดอย่างหนัก เพื่อสร้างการรับรู้ให้เข้าถึงผู้บริโภคอีกทั้งปัจจุบันไอศกรีมไทยมีหลากหลายแบรนด์ ทั้งที่เป็นรถเข็นและตามข้างทาง แต่ยังไม่มีแบรนด์ที่เป็นไอศกรีมรสชาติไทยแท้ ที่ใส่ใจเรื่องวัตถุดิบและแพ็กเกจจิ้งที่จะสะดุดตาชาวต่างชาติ จึงอยากพัฒนาไอศกรีมไทยรอยัล ให้เป็นซิกเนเจอร์ของคนไทยที่มีราคาไม่สูงมาก

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป จะเน้นทำการตลาดในประเทศเป็นหลัก และในปีนี้ บริษัทใช้งบฯลงทุนโดยรวมประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิตอีกหลายเท่าตัว จากเดิมที่มีกำลังการผลิตวันละ 1 หมื่นชิ้นต่อวัน ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะเริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ในช่วงปลายปี 2562 เพื่อรองรับดีมานด์ของตลาดที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง

“การที่เราขยายฐานการผลิตก็เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด และยังช่วยรักษาคุณภาพของไอศกรีมที่ผลิต ส่งออกจากโรงงานกระจายไปสู่ร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดว่าเร็ว ๆ นี้จะขยายการส่งออกเพื่อจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ”

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เตรียมกลยุทธ์สร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ โดยชูจุดเด่นด้านวัตถุดิบผลไม้สด เน้นเฉพาะผลไม้เมืองร้อน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรสชาติความอร่อยจากเนื้อผลไม้แท้ 100% และมุ่งนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เน้นเทรนด์ธรรมชาติ โดยนำหญ้าหวานมาใช้เป็นส่วนผสมเพิ่มความหวานแทนน้ำตาล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งวัตถุดิบคุณภาพ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าวน้ำหอม อยู่ที่สมุทรสาคร และสวนผลไม้ประเภทอื่น ๆ เพื่อพัฒนารสชาติใหม่ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมรสชาติความอร่อยของไอศกรีมแบบไทยแท้ได้กว้างขึ้น

นายภัทรพงษ์พันธ์กล่าวต่อว่า การทำธุรกิจย่อมมีปัจจัยเสี่ยง และสิ่งสำคัญของธุรกิจอยู่ที่วัตถุดิบผลไม้ เพราะผลไม้บางชนิดขึ้นอยู่กับฤดูกาล รวมถึงสภาพอากาศในแต่ละปีว่าจะมีผลผลิตผลไม้ออกมากหรือน้อย ดังนั้น จึงต้องวางแผนจัดการสต๊อกสินค้า รวมถึงการบริหารต้นทุนในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้รอบคอบตลอดจนการพัฒนาช่องทางออนไลน์ เพิ่มบริการ “ดีลิเวอรี่ โดยผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อไอศกรีมไทยรอยัล ผ่านช่องทาง Line @thairoyalicecrean จัดส่งตั้งแต่ 25 แท่งขึ้นไป ส่งฟรีในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ปัจจุบันไอศกรีมไทยรอยัล มีทั้งหมด 14 รสชาติ ราคา 20 บาท จัดจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า อาทิ แม็กซ์ แวลู, พารากอน, เดอะมอลล์ และเอ็มควอเทียร์ ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายกว่า 500 จุด เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบผลไม้ไทย

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 10% และเชื่อมั่นว่าการขยายโรงงานเพิ่มอัตราการผลิตจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง