บ.แม่ทุ่มงบเติม “เทสโก้” แกร่ง สปีดสาขาอัพเกรดร้านค้า-DC หนีคู่แข่ง

บริษัทแม่ “เทสโก้ โลตัส” มั่นใจแข็งแกร่งในตลาดค้าปลีกไทย เปิดแผนลงทุนไม่หยุดขยายสาขา-อัพเกรดระบบร้านค้า-ศูนย์กระจายสินค้า เตรียมขยายลงทุนเพิ่มทุกรูปแบบหวังลดต้นทุนทางธุรกิจ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง สปีดเป้า 2,000 สาขาตามแผนส่งโมเดล “ไซซ์ใหญ่-ไซซ์เล็ก” เจาะพื้นที่ทั่ว ปท.แม้ว่าตัวเลขการเติบโตของค้าปลีกในเซ็กเมนต์ “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” ในปีนี้จะกลายเป็นความท้าทายอย่างมาก จากอัตราการเติบโตที่ไม่สดใสมากนัก แต่ในการแข่งขันของ “ค้าปลีก” กลับร้อนแรงไม่หยุด โดยเฉพาะภาพความเคลื่อนไหวของเจ้าตลาด “เทสโก้ โลตัส” ที่สปีดสร้างการเติบโตไม่หยุด ไม่เพียงเป้าหมายทะลุ 2,000 สาขาในปีนี้ แต่ยังรวมถึงการที่บริษัทแม่ให้ความสำคัญและเข้ามาลงทุนในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

“เทสโก้” เมืองไทยแข็งแกร่ง

นายมิโรสลาฟ ฟริมอล รองประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมืองไทยเป็นตลาดต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของเทสโก้ ทั้งด้วยขนาดธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอังกฤษ รวมถึงสภาพตลาดค้าปลีกที่ยังแข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตอีกมาก

โดยมีแผนลงทุนต่อเนื่องในการขยายสาขารวมถึงอัพเกรดระบบต่าง ๆ ของร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและเตรียมลงทุนขยายเพิ่มหลังจากนี้ อาทิ ระบบแสงสว่าง การทำความเย็น ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

“แม้การลงทุนนี้จะทำให้ต้นทุนในการขยายสาขา ซึ่งเดิมวางไว้ที่ 100 สาขาต่อปีสูงขึ้น แต่เชื่อว่าจะคุ้มค่าในระยะยาว เห็นได้จากการลงทุนติดตั้งแผงพลังแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยลดค่าไฟได้ถึงปีละ 60 ล้านบาท”

ทุ่ม 600 ล.ปรับ “เอ็กซ์เพรส”

ทั้งนี้ ได้ทุ่มงบฯลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ปรับปรุงร้านสะดวกซื้อเทสโก้ โลตัส “เอ็กซ์เพรส” จำนวน 900 สาขาทั่วประเทศ เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หลอดแอลอีดี รวมถึงเปลี่ยนน้ำยาแอร์ทั้งในสาขาเดิมและสาขาที่จะเปิดใหม่หลังจากนี้เป็นแบบใหม่ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 10% ก่อนจะพิจารณานำไปใช้กับโมเดลใหญ่ขึ้นและศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งคาดว่าจะครบทั้ง 1,900 สาขาในเวลา 2 ปี

“ถือเป็นการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมมูลค่าสูงที่สุดสำหรับสาขานอกประเทศอังกฤษ ตามนโยบายของบริษัทแม่ซึ่งต้องการให้เทสโก้เป็นแบรนด์ค้าปลีกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2563 และไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลยในปี 2593 ซึ่งนอกจากลดต้นทุนพลังงานแล้วยังสามารถใช้เป็นจุดขายได้ในอนาคต เนื่องจากผู้บริโภคไทยและอีกหลายประเทศเริ่มสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

Strategic Location

สอดคล้องกับแผนการลงทุนในประเทศ นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ฉายภาพว่า เมืองไทยเป็น Strategic Location ของเทสโก้ กรุ๊ป เพราะฉะนั้นบริษัทแม่สนับสนุนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจค้าปลีกในไทยมีโอกาสเติบโตทั้งช่องทางร้านค้าและออนไลน์ โดยตามแผนการลงทุนปีละ 100 สาขาในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดให้บริการแล้ว 30 สาขา

โดยเทสโก้ โลตัส เน้นเปิดสาขาใหม่ในหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง อาทิ บุรีรัมย์ อุทัยธานี ชัยภูมิ นครสวรรค์ และสระแก้ว ที่เป็นสาขาไซซ์ใหญ่และอีก 25 สาขาเป็นเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันซึ่งเปิดให้บริการแล้ว 1,900 สาขา

นอกจากการเปิดสาขาใหม่แล้ว เทสโก้ โลตัส ยังได้ลงทุนปรับปรุงสาขาที่มีอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง

“ทำอย่างไรให้ลูกค้ามาที่สโตร์ สนุกกับการช็อปปิ้ง ลูกค้ามาแล้วก็อยากมาอีก ในสาขาใหญ่ลูกค้าไม่ได้มาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างเดียว แต่มากินข้าว นั่งร้านกาแฟ เดินดูสินค้า ขณะที่ช่องทางออนไลน์ เป็นเทรนด์เติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้ยังมีฐานเล็กแต่เชื่อว่าโตได้อีกมาก”

สปีด 2,000 สาขาคลุมทั่ว ปท.

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ทิศทางธุรกิจของเทสโก้ โลตัสในเมืองไทย วางเป้าหมายขยายธุรกิจด้วยการเปิดสาขาใหม่ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้ครบ 2,000 แห่งในปีนี้จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 1,900 สาขาใน 73 จังหวัด โดยมุ่งไปที่การลงทุนในต่างจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสาน

รวมถึงปรับปรุงสาขาของโมเดล “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” จำนวน 18 แห่งให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารค่าเช่าพื้นที่พลาซ่า ควบคู่กับการลงทุนในช่องทางขายออนไลน์ โดยเทสโก้ โลตัส มีทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านทางเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ Lazada, Weloveshopping