บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดร่วงหนัก มาม่าเร่งปรับแผนรายวัน

สหพัฒนฯ โต้ “ดัชนีมาม่า” ศก.ไม่ดีก็ขายไม่ได้ เผยโควิด-19 ทุบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดวูบ คาดปีนี้ตลาดโตแค่ 1.8% ต่ำกว่าปี62 ที่โต 5% หลังผู้บริโภคยังระวังตัวเดินทางน้อยทำเซ็กเมนต์ถ้วยหดตัวระดับ 2 ดิจิท แถมมีสารพัดปัจจัยทำดีมานด์แกว่ง ด้านบริษัทเร่งรับมือลุยปรับแผนรายวัน

โควิดทำตลาดโตแค่ 1.8 %

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด มหาชน กล่าวในงานสัมมนา ปรับตัวอย่างไรให้ชนะในโลกหลังโควิด ที่จัดโดยบริษัทวิจัยนีลเส็น ว่า

ปีนี้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งปีน่าจะโตต่ำกว่าปีก่อนมาก โดยคาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 2% กว่า ๆ จากปัจจุบัน 9 เดือนโต 1.8% ต่ำกว่าปี 2562 ที่ทั้งปีโต 5%

ทั้งนี้ เป็นเพราะปัจจัยกระตุ้นการชื้อ อาทิ การเดินทาง การเที่ยว และการใช้ชีวิตกลางคืนลดลง ส่งผลให้ยอดขายเซ็กเมนท์บะหมี่ถ้วย 9 เดือนติดลบถึงระดับเลข 2 หลัก ส่วนแบบซองโต 6% น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่โต 7%

“ที่เคยเชื่อกันว่า มีดัชนีมาม่า ที่เศรษฐกิจไม่ดี แล้วมาม่าจะขายดีนั้นไม่ใช่เลย เศรษฐกิจไม่ดีเราก็ขายไม่ดี และถ้าดีเราก็ขายดี”

วุ่นปรับแผนรายวัน

ขณะเดียวกันการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องเพิ่มความรวดเร็วในการวางแผนต่างๆทั้งการผลิต-สต็อกสินค้า และการตลาด ให้ทันกับสถานการณ์

เนื่องจากปีนี้ยอดขายสินค้าแต่ละตัวเปลี่ยนแปลงตลอดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เมื่อรัฐบาลประกาศวันหยุดชดเชยสงกรานต์มาม่าคัพก็ขายดีทันที เป็นต้น

ส่วนช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่เกิดการแห่กักตุนสินค้าทำให้มาม่าขาดตลาดเปิดช่องให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าแบรนด์อื่นๆจนส่วนแบ่งตลาดลดลงต่ำสุดในประวัติศาสตร์จาก 52%เหลือเพียง 46% ก่อนจะกลับสู่ภาวะปกติในเดือนถัดๆมา

ทำให้ไม่สามารถวางแผนการตลาด การกระจายสินค้าโดยอ้างอิงข้อมูลปีก่อนๆ และวางแผนหรือคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นเดือนหรือปีเหมือนเดิมได้ แต่ต้องวางแผนรายวัน และนำข้อมูลปัจจุบันเป็นข่าวสารต่างๆมาประกอบด้วยเพื่อให้แม่นยำมากที่สุด

“ตอนนี้ต้องประชุมปรับเป้ากันทุกวันตอน 8 โมงเช้า ไม่อย่างนั้นอาจทำให้บางพื้นที่ไม่มีสินค้าหรือสินค้าล้น”