นีลเส็นไอคิวชี้ พฤติกรรมจับจ่ายผู้บริโภคอาจไม่เปลี่ยน แม้มีวัคซีนโควิด

ช้อปปิ้งในห้าง
Mladen ANTONOV / AFP

นีลเส็นไอคิว เผยแม้มีวัคซีนโรคโควิด-19 แล้ว แต่พฤติกรรมจับจ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกอาจยังไม่เปลี่ยน เนื่องจากไม่มั่นใจประสิทธิภาพและจำนวนวัคซีน ชี้เศรษฐกิจจะฟื้นได้ต้องรอวัคซีนแพร่หลายทั่วประเทศก่อน

ความเชื่อมั่นยังเป็นปัญหา

นายสก็อตต์ แมคเคนซี่ หัวหน้าทีม Global Intelligence บริษัท นีลเส็นไอคิว ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางธุรกิจ สังคมและเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า จากการสำรวจผู้บริโภคมากกว่า 11,000 คน ใน 15 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย แอฟริกาใต้ สเปน ไทย ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนธันวาคม 2563 พบว่า ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งหรือราว 64% จะไม่รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในทันที

เนื่องจากยังสงสัยและไม่มั่นใจในตัววัคซีนโควิด ส่งผลต่อเนื่องให้ผู้บริโภคกว่า 52% ลังเลที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ในขณะที่ราว 58% ขาดความเชื่อมั่นในการทานอาหารนอกบ้าน และกว่า 65% ไม่มั่นใจการเข้าชมการแข่งขันกีฬา และอีกกว่า 70% กังวลเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจเกิดขึ้นช้าลง

 

ไทยแนวโน้มดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีทัศนคติเชิงบวก โดยผู้บริโภคจำนวน 53% มั่นใจที่จะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ หากได้รับการยืนยันช่วงเวลาที่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ชนิดที่ผ่านการรับรองแล้ว อีกทั้งผู้บริโภคกล่าวในทิศทางเดียวกันว่า หลังการฉีดวัคซีนแพร่หลายในประเทศไทยแล้ว จะใช้เงินกับการออมเงินหรือการลงทุนมากขึ้นถึง 32% และรับประทานอาหารนอกบ้านถึง 29%

ทั้งนี้นีลเส็นชี้ว่า ความพร้อมและจำนวนของวัคซีนจะช่วยให้ผู้บริโภคบางส่วนกลับมาเชื่อมั่นในการใช้จ่ายมากขึ้น โดย 16% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น สวนทางกับผู้บริโภคจำนวน 12% ที่จะใช้จ่ายน้อยลง อย่างไรก็ตาม 72% ของผู้บริโภคระบุว่าจะยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

“ระดับความเชื่อมั่นเกี่ยวกับวัคซีนและความต้องการที่จะรับวัคซีนอาจเปลี่ยนแปลงไป เมื่อประเทศต่าง ๆ เริ่มมีการฉีดวัคซีนและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนมากขึ้น แต่ก็มีหลายสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการมีวัคซีนจะไม่ทำให้โลกกลับไปเป็นเหมือนช่วงก่อนการระบาด จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางความท้าทายด้านเศรษฐกิจ”